xs
xsm
sm
md
lg

ซีพีแลนด์จับมือกว่างซีเดินหน้าพัฒนานิคมมูลค่า 9 พันล้าน ดึงจีนเข้าลงทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

สุนทร อรุณานนท์ชัย
ซี.พี.แลนด์ ผนึกทุนจีนเดินหน้าพัฒนานิคม “ซีพีจีซี” ระยอง หลังได้ใบอนุญาตครบ วางงบลงทุน 7 พันล้านบาท คาดเฟส 1 สร้างเสร็จในปี 63 เตรียมสร้างโรงไฟฟ้ารองรับความต้องการในนิคม เผยเจรจาทุนจีนแล้ว 30 ราย

นายสุนทร อรุณานนท์ชัย ประธานกรรมการบริษัทซีจี คอร์เปอเรชั่น จำกัด และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมซีพีจีซี จังหวัดระยอง ว่า ขณะนี้การขออนุญาตขั้นตอนต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจะเริ่มก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคในต้นปี 2562 คาดว่าจะใช้เวลาในการพัฒนาประมาณ 4 ปี โดยเฟสแรกจะแล้วเสร็จและเดินกำลังการผลิตได้ในปี 2563

นิคมซีพีจีซี ดำเนินการภายใต้บริษัท ซีจี คอร์เปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง ซี.พี.แลนด์ และกลุ่มบริษัทกว่างซี คอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป ในสัดส่วน 50 ต่อ 50 มูลค่าโครงการประมาณ 9,000 ล้านบาท มูลค่าการลงทุนเกือบ 7,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ นิคมซีพีจีซี มีพื้นที่กว่า 3,068 ไร่ แบ่งพื้นที่อุตสาหกรรม 2,205 ไร่ เขตพาณิชยกรรม 112 ไร่ ที่เหลือเป็นพื้นที่ระบบสาธารณูปโภค และพื้นที่สีเขียว และแนวกันชน โดยใช้แนวคิดนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industrial Town) มาประยุกต์ใช้ในการออกแบบ บริษัทคาดว่าจะขาย และให้เช่าหมดภายใน 4 ปี ก่อให้เกิดการลงทุนไม่น้อยกว่า 60,000 ล้านบาท และมีการจ้างงานไม่น้อยกว่า 20,000 อัตรา

สำหรับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเป้าหมาย เน้นไปที่นักลงทุนชาวจีนที่เป็นอุตสาหกรรมสะอาด โดยจะใช้สายสัมพันธ์ของกว่างซี ที่มีต่อนักลงทุนชาวจีนในการหาพันธมิตรเข้ามาลงทุนในนิคมซีพีจีซี แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทก็เปิดกว้างให้นักลงทุนจากทั่วโลกที่สนใจเข้ามาร่วมลงทุนในนิคมซีพีจีซี ซึ่งขณะนี้มีนักลงทุนจากจีนมีความสนใจมาคุยแล้ว 20-30 ราย รวมทั้งนักลงทุนจากญี่ปุ่น เกาหลี โดยทางบริษัทจะเลือกอุตสาหกรรมสะอาด และสอดคล้องต่อนโยบาย 4.0 โดยเฉพาะนิวเอส เคิร์ฟ เช่น เครื่องมือแพทย์ เกษตรแปรรูปไฮเทค และยานยนต์สมัยใหม่ ซึ่งคาดว่าในปีหน้าจะมีความชัดเจนของกลุ่มนักลงทุนมากขึ้น นอกจากจากนี้ บริษัทมีที่ดินรอบนิคมฯ อีกหลายร้อยไร่ อนาคตมีแผนที่จะนำมาพัฒนาเป็นโครงการเชิงพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย ศูนย์การเรียนรู้ และการฝึกอบรม

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้า หลังจากเปิดเฟสแรกไปแล้ว เนื่องจากในช่วงการเปิดเฟสแรกโรงงานในนิคมจะยังใช้ไฟฟ้าไม่เยอะ และสามารถใช้ไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ และยังต้องรอดูว่าอุตสาหกรรมที่จะเข้ามาลงทุนในนิคมมีความต้องการใช้ไฟฟ้ามากน้อยเพียงใด เพื่อที่จะได้สร้างโรงงานไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตเพียงพอต่อความต้องการ ในเบื้องต้น ได้วางระบบท่อเพื่อรองรับสายไฟฟ้าไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งการสร้างโรงไฟฟ้าสามารถดำเนินการได้หลายรูปแบบ เช่น สร้างทีเดียว หรือสร้างทีละ 50 เมกะวัตต์ และขยายเพิ่มในภายหลังหากมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่ม ซึ่งทางกว่างซี มีความเชี่ยวชาญในการสร้างโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจากแก๊ส
ร่วมเซ็น MOU
ล่าสุด ซีจีฯ ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับ 3 หน่วยงาน ได้แก่ จับมือกับสำนักงานนวัตกรรมและความร่วมมือ สถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนและพัฒนาความรู้ด้านนวัตกรรมวิทยาศาสตร์ไทย และจีน เพื่อยกระดับนิคมอุตสาหกรรมซีพีจีซี ให้เป็นนิคมที่มี “เทคโนโลยีขั้นสูง คุณภาพสูง มูลค่าสูง” ร่วมกันผลักดันการพัฒนา CAS HIGH-TECH INDUSTRIAL ZONE (THAILAND) เพื่อมุ่งเน้นการสร้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถตามความต้องการของกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามแนวนโยบายยุทธศาสตร์ชาติ ไทยแลนด์ 4.0 รวมถึงการเชื่อมโยงกับแนวความคิด One Belt One Road และ Made in China 2025

นอกจากนี้ ซีจีฯ ยังได้ลงนามบันทึกความร่วมมือในด้านการพัฒนาความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์การแพทย์ กับหน่วยงาน CAS Ion Medical Technology Company Limited อีกทั้งนำพากลุ่มนักลงทุนทางอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องมือแพทย์ระดับชั้นนำของประเทศจีนมาร่วมลงทุนในประเทศไทย เพื่อให้ประเทศไทยมุ่งไปสู่ศูนย์กลางแห่งการแพทย์ครบวงจรแห่งเอเชีย

และท้ายที่สุด คือ การร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่าง ซีจีฯ และ China Energy Engineering Group Yunnan Electric Power Design Institute Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ China Energy Engineering Corporation Co., Ltd. เป็นบริษัทที่ให้บริการระบบโซลูชันด้านอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าครบวงจร ซึ่งในความร่วมมือกันครั้งนี้จะนำไปสู่การพัฒนาด้านความรู้ เทคนิคและวิทยาการในด้านพลังงานต่างๆ ที่จำเป็นต่อนิคมอุตสาหกรรมซีพีจีซี เพื่อพัฒนาให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ และมีการใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า


กำลังโหลดความคิดเห็น