xs
xsm
sm
md
lg

ซีพีเอฟ กำไร 9 เดือนปีนี้ 1.38 หมื่น ล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เจริญโภคภัณฑ์อาหาร แจ้งกำไรสุทธิ 9 เดือนปีนี้ 13,855 ล้านบาท รับผลราคาสุกรในเวียดนาม ฟื้นกลับจากภาวะล้นตลาด แนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากกิจการในต่างประเทศ

นายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจเกษตร อุตสาหกรรม และกรรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF แจ้งผลงานงวด 9 เดือนแรกปีนี้ มียอดขาย 398,261 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยการเติบโตส่วนใหญ่มาจากกิจการในต่างประเทศ

“ด้วยกลยุทธ์การสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับองค์กร CPF ได้มีการขยายการลงทุนไปยังประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และอาหาร โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา และมีความต้องการพัฒนาการเลี้ยงสัตว์ให้ทันสมัยได้มาตรฐาน มาถึงวันนี้ ได้มีการลงทุนทั้งสิ้น 17 ประเทศ มีการขยายตัวของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ยอดขายจากกิจการในต่างประเทศนี้ คิดเป็น 67% ของยอดขายรวม และในรอบระยะเวลา 9 เดือนแรกของปีนี้ มีการเติบโต 12% จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยกิจการในประเทศเวียดนาม มีการเติบโตสูงสุด” นายสุขสันต์ กล่าว

โดยผลการดำเนินงานของ 9 เดือนแรกปีนี้ บริษัทสามารถทำกำไรได้ 13,855 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 7% ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากราคาสุกรในประเทศเวียดนาม และกัมพูชา ที่ปรับตัวสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา คาดว่าผลการดำเนินงานของปีนี้ น่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย และน่าจะมีการเติบโตต่อเนื่องในปี 2562 จากการขยายตัวของธุรกิจในต่างประเทศ

บริษัทตระหนักถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ย และกำลังซื้อของผู้บริโภค จึงได้ให้ความสำคัญในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหาร ที่มีอัตราลดลง และการจัดการบริหารด้านการเงินที่มีการออกและจำหน่ายหุ้นกู้ระยะยาว เพื่อให้มีต้นทุนดอกเบี้ยที่ต่ำลง

นายสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจอาหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) กล่าวถึงโอกาสในการขยายธุรกิจอาหารว่า บริษัทได้จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาฯ ขึ้น เพื่อสรรสร้างสินค้าอาหารให้ตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคในทุกระดับอายุ รวมไปถึงสินค้าอาหารเพื่อผู้ป่วย และผู้สูงวัย มองว่า การแข่งขันในธุรกิจอาหารพร้อมรับประทานมีความท้าทายขึ้น การมีนวัตกรรมในการผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในท้องถิ่นต่างๆ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ

นายสุขสันต์ กล่าวถึงเป้าหมายยอดขายของ CPF ว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า บริษัทได้ตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขายจำนวนมากกว่า 600,000 ล้านบาท โดยกิจการในต่างประเทศเป็นกิจการหลักในการผลักดันการเติบโต และมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าประเทศไทย โดยคาดว่า กิจการในต่างประเทศจะมีสัดส่วนประมาณ 75% ของยอดขายรวม

“ด้วยวิสัยทัศน์ของ CPF สู่การเป็นครัวของโลกอย่างยั่งยืน มุ่งผลิตสินค้าคุณภาพ ปลอดภัย สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ยึดมั่นในการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ดูแลและรับผิดชอบต่อสังคมรอบด้านบนพื้นฐานของการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งได้รับการยอมรับด้านความยั่งยืนจากองค์กรทั้งในประเทศและระดับโลกในด้านต่างๆ อันรวมถึงการได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกหุ้นยั่งยืนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การเป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืน DJSI และ FTSE4Good ติดต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง” นายสุขสันต์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น