แสนสิริ งวด 6 เดือนแรกปีนี้ กำไรวูบ 1,043 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำไว้ 2,046 ล้านบาท หรือลดลง 50.98% ผลจากการลดลงของรายได้จากการขายโครงการประกอบกับการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขาย
นายวันจักร์ บุรณศิริ กรรมการผู้รับมอบอำนาจ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI แจ้งผลงานไตรมาส 3 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 363.07 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 729.63 ล้านบาท หรือลดลง 366.56 ล้านบาท คิดเป็น 50.23% ผลจากการลดลงของรายได้จากการขายโครงการประกอบกบการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขาย
โดยไตรมาสนี้ SIRI มีรายได้รวมทั้งสิ้น 6,882 ล้านบาท ลดลง 6% จากจํานวน 7,345 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 3 ปีก่อน เป็นผลมาจากการลดลงของรายได้จากการขายโครงการอันเป็นรายได้หลักของแสนสิริ ซึ่งลดลง 9% ส่งผลให้รายรับรวมสําหรับงวดเก้าเดือนของปี 2561 มี 17,744 ล้านบาท หรือลดลงที่ 23% เมื่อเทียบกับรายรับรวม 23,129 ล้านบาทสําหรับงวดเก้าเดือนของปี 2560
สําหรับกําไรสุทธิงวดนี้มี 363 ล้านบาท ลดลง 49% เมื่อเทียบกับกับกำไรสุทธิ 730 ล้านบาทในไตรมาสที่ 3/2560 ส่งผลให้กําไรสุทธิ
สําหรับงวดเก้าเดือนของปีนี้อยู่ที่ 1,003 ล้านบาท ลดลงจาก 2,046 ล้านบาทสําหรับงวดเก้าเดือนของปี 2560
ส่วนต้นทุนขายมี 3,540 ล้านบาท ลดลง 10% เมื่อเทียบกับต้นทุนโครงการเพื่อขายในไตรมาสที่ 3 ปีก่อน ส่งผลให้ต้นทนโครงการเพื่อขายในงวดเก้าเดือนปีนี้ ลดลงที่ 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 34.6% เพิ่มขึ้นจาก 33.4%ในไตรมาสที่ 3/2560 ขณะที่อัตราไรขั้นต้นสําหรับงวดเก้าเดือนของปี 2561 ลดลง รวมทั้งต้นทุนโครงการเพื่อต้นทุนโครงการเพื่อเช่าในไตรมาสที่ 3/2561 มี 18 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดนี้ปีก่อน
ขณะที่บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหาร 1,705 ล้านบาท คิดเป็น 24.8% ของรายได้รวม ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหาร อยู่ที่ 20.4% ของรายได้รวม เช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารในงวดเก้าเดือนของปี 2561 ซึ่งอยู่ที่ 24.2% ของรายได้รวม ปรับเพิ่มขึ้นจาก 17.6% ของรายได้รวมสําหรับงวดเก้าเดือนปี 2560
เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เป็นผลมาจากการเปิดโครงการใหม่หลายโครงการในช่วงปี 2561 รวมถึงเป็นผลจากฐานรายได้ที่ลดลง สําหรับค่าใช้จ่ายในการขายในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ เพิ่มขึ้น 10%