อนาคตบางนา-ตราดบูม รัฐ-เอกชนผุดโครงการพรึบ

“บางนา-ตราด” อนาคตบูม รัฐ-เอกชนแห่ขึ้นโครงการพรึบ หนุนตลาดที่อยู่อาศัยโตตาม คาดภายใน 5 ปี คอนโดฯ เปิดใหม่กว่า 10,000 ยูนิต ด้านเสนาฯ สบช่องผนึกพันธมิตร “ฮันคิว ฮันชิน” ผุดโครงการนิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา มูลค่ากว่า 2,200 ล้านบาท

น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า ทำเลบางนา-ตราด นับเป็นทำเลที่มีการขยายตัว และมีอัตราการเติบโตดี เนื่องจากเป็นทำเลที่มีการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ทั้งจากภาครัฐ และเอกชนหลายโครงการ ส่งผลให้ระดับราคาที่ดินมีอัตราการปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 200,000-300,000 บาทต่อ ตร.ว. ขณะที่การพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในย่านนี้ยังมีจำนวนไม่มากนัก

จากศักยภาพดังกล่าวทำให้บริษัทได้ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจบริษัท ฮันคิว ฮันชิน พัฒนาโครงการ นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา เป็นคอนโดมิเนียม สูง 40 ชั้น จำนวน 795 ยูนิต มูลค่า 2,200 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท หรือราคาขายเฉลี่ย 83,000 บาทต่อ ตร.ม. โดยบริษัทเตรียมจัดงานพรีเซลอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 พ.ย.นี้ ทั้งนี้ คาดว่าในวันพรีเซลจะมียอดขายที่ประมาณ 60-65%

นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา ตั้งอยู่บนพื้นที่ 3 ไร่เศษ เป็นคอนโดมิเนียมสูง 40 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 795 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต พร้อมอาคารจอดรถ 8 ชั้น 1 อาคาร โดยแบ่งเป็นห้องชุดพักอาศัย 3 ขนาด ประกอบด้วย ขนาด 1 ห้องนอน 30 ตารางเมตร 35 ตารางเมตร และ 50 ตารางเมตร

การออกแบบห้องชุดภายใต้แนวคิด “Good Sleep” ที่ให้การพักผ่อนอย่างแท้จริง ด้วยการออกแบบห้องให้มีพื้นที่กว้างขวาง ใส่ detail ความละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เข้าไป เช่น Dimmed Light เพื่อสร้างบรรยากาศแสงสลัว หรือจะเป็นการเสริมกรอบม่าน เพื่อทำให้ห้องมืดสนิท ปราศจากแสงจากภายนอก อีกทั้งการออกแบบได้คำนึงถึงระยะห่างระหว่างเตียงกับหน้าต่าง ให้มีระยะที่เหมาะสม ขณะเดียวกัน เฟอร์นิเจอร์ที่ให้ไม่ว่าจะเป็น Sofa + ottoman และ daybed เพื่อให้ผู้อาศัยสามารถทำกิจกรรมก่อนนอนได้ และให้เตียงนอนเป็นที่สำหรับนอนจริงๆ และสุดท้ายก่อนออกจากห้อง Master Switch สามารถปิดไฟได้ทุกดวงในห้อง และ Digital Door lock เงียบไร้เสียงรบกวน

โครงการนิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา มีพื้นที่ส่วนกลาง 3 ชั้น ที่ผสมผสานพื้นที่ Social Community และ Activity เข้าด้วยกัน เช่น Sky infinity Edge Pool, Sky Fitness, Bike Lane, EV Charger, Shuttle Bus Service พร้อมที่จอดรถ 70% เป็นต้น แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกใกล้แหล่งชอปปิ้ง เซ็นทรัล พลาซ่า บางนา, อีเกีย, เมกา บางนา, ซีคอน สแควร์, โรงพยาบาลไทยนครินทร์ และโรงพยาบาลปิยะมินทร์ สถานศึกษา โรงเรียนนานาชาติเบิร์คลีย์ และโรงเรียนเซนต์แอนดรูว์ เป็นต้น

เอกชน-รัฐผุดโครงการขนาดใหญ่เพียบ

ด้าน นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ทำเลบางนา-ตราด นับเป็นพื้นที่ที่การพัฒนาคอนโดมิเนียมมีศักยภาพในการขยายตัว และเติบโตได้ดี เป็นทำเลที่ตอบสนองความต้องการของคนทำงานในบางนา บางพลี บางบ่อ และชลบุรี มีโครงการพัฒนาทั้งของเอกชน และของรัฐเกิดขึ้นหลายโครงการ ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพ และมูลค่าของทรัพย์สินในอนาคต

สำหรับโครงการที่ภาครัฐและเอกชนอยู่ระหว่างพัฒนา และมีแผนจะพัฒนาในย่านนี้ ได้แก่ 1. โครงการแบงค็อก มอลล์ (Bangkok Mall) เป็นโครงการพัฒนาพื้นที่พาณิชยกรรมขนาดใหญ่ หรือศูนย์การค้าแบบรีจีนัลมอลล์ขนาดใหญ่ มีพื้นที่โครงการทั้งหมด 100 ไร่ มูลค่าการลงทุนรวมอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท พื้นที่รวมทั้งโครงการ 650,000 ตารางเมตร ภายในโครงการประกอบด้วย อาคารศูนย์การค้า, โรงภาพยนตร์, ศูนย์แสดงสินค้า, สวนสนุก, สวนน้ำ, คอนโดมิเนียม, และอาคารที่อยู่อาศัยให้เช่า หรือเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ อาคารสำนักงานให้เช่า จะก่อสร้างภายในครึ่งปีหลังของปี 2561 และกำหนดเปิดให้บริการภายใน 5 ปีข้างหน้า และเมื่อเปิดให้บริการแล้วจะเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ ยังมีสถานีขนส่งผู้โดยสารสายตะวันออกที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับศูนย์การค้าบนพื้นที่กว่า 7 ไร่ โดยจะย้ายสถานีขนส่งเอกมัยเดิมทั้งหมดมารวมอยู่ที่นี่ รองรับกลุ่มผู้โดยสารที่จะเดินทางไปภาคตะวันออก

2. โครงการเมกา ซิตี้ บางนา (Mega City Bangna) ยกระดับโครงการเป็น Mixed-use Development - Phrase 2 ด้วยงบลงทุนกว่า 67,000 ล้านบาท รวมกับศูนย์การค้า “เมกาบางนา” โดยเฟส 2 จะประกอบด้วย ศูนย์การค้า, อาคารสำนักงาน, โรงแรม 2 แห่ง, คอนโดพักอาศัย เพิ่มพื้นที่สีเขียว และสวนสาธารณะ บนพื้นที่ทั้งหมด 400 ไร่

3. เดอะ ฟอเรสเทียส์ (THE FORESTIAS) เป็นโครงการแบบ Mixed-Use Lifestyle บนพื้นที่กว่า 300 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 90,000 ล้านบาท มีพื้นที่ก่อสร้างรวมกว่า 6 แสน ตร.ม. แบ่งเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ 1.8 แสน ตร.ม. ประกอบด้วย โครงการคอมมูนิตีมอลล์, อาคารสำนักงานให้เช่า Medical Complex ระดับ 6 ดาว, โรงแรมบูทีคระดับ 6 ดาว และโรงแรม 4 ดาว, ศูนย์เรียนรู้, โรงเรียนอนุบาล และ อาคารนวัตกรรมแห่งอนาคต โดยเริ่มต้นดำเนินการก่อสร้างปี 2561 และจะแล้วเสร็จภายในปี 2565

4. โครงการรถไฟฟ้าสายบางนา-สุวรรณภูมิ อยู่ในแผนแม่บทรถไฟฟ้าระยะที่ 2 หรือ M-MAP 2 ขณะนี้อยู่ในระหว่างการประเมินความเหมาะสม และดึงเอกชนเข้าร่วมทุนรถไฟฟ้าสายบางนา-สุวรรณภูมิ เป็นรถไฟฟ้าประเภท Light Rail ที่เชื่อมมาจากรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สายสุขุมวิท) ที่สถานีบางนา ซึ่งจะวิ่งไปทางถนนบางนา-ตราด ระยะทางประมาณ 18.3 กม. จำนวน 14 สถานี คาดว่าจะรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 40,000 คนต่อวัน ตั้งแต่สถานีบางนา จนไปถึงสถานีสุวรรณภูมิใต้โดยตรง สถานีศรีเอี่ยมจะเป็นสถานี Interchange เชื่อมต่อกับสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง (ถนนศรีนครินทร์) นอกจากนี้ บริเวณสถานีธนาชิตี้ จะเป็นโรงจอดรถและซ่อมบำรุง บนพื้นที่ 29 ไร่

5. บริเวณบางนา-ตราด ช่วง กม.19-23 จะกลายเป็น Logistics Hub ที่สำคัญเป็นที่ตั้งของศูนย์กระจายสินค้าของบริษัทขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก มีพื้นที่โกดังเก็บสินค้ารวมประมาณ 1.2 ล้าน ตร.ม. นอกจากนี้ ยังเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จำนวนมาก เป็นแหล่งที่จ้างงานที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรปราการ และเป็นทำเลที่มีศักยภาพเชื่อมต่อแหล่งผลิตในพื้นที่ Eastern Seaboard ปัจจุบันขยายการพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จึงเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง โดยเป็นที่ตั้งของหลากหลายธุรกิจอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์ สินค้าอุปโภคบริโภค สุขภาพและความงาม อิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจค้าปลีกและขายส่ง เป็นต้น นอกจากนี้ ในอนาคตพื้นที่บางนา-ตราด บริเวณ กม.ที่ 32.5 จะมีโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เต็มรูปแบบบนพื้นที่จำนวน 4,300 ไร่ เกิดขึ้นด้วย

6. บางนาเป็นพื้นที่ของแหล่งที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ ที่ตั้งของหมู่บ้านและโครงการที่พักอาศัย บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมที่มีราคาค่อนข้างสูงหลายโครงการ ด้วยศักยภาพถนนบางนา-ตราด เป็นถนนที่เชื่อมกับถนนสุขุมวิท และถนนศรีนครินทร์ ซึ่งสามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร รถไฟฟ้าสายสีเขียว และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยจะเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ย่านนี้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริเวณบางนายังเป็นแหล่งที่ตั้งของโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง เช่น โรงเรียนบางกอกพัฒนา โรงเรียนนานาชาติ ไทย-สิงคโปร์ โรงเรียนนานาชาติเบิร์คลีย์ โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรู โรงเรียนนานาชาติคอนคอร์เดียน โรงเรียนนานาชาติดิษยะศรินอินเตอร์เนเชอร์แนลเพร็พพะทอรี โรงเรียนนานาชาติไทย-จีน โรงเรียนเซนโยเซฟบางนา เป็นต้น

สำหรับซัปพลายในพื้นที่บางนาตั้งแต่ปี 2552-ตุลาคม 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 7,836 ยูนิต โดยมีอัตราการขายอยู่ที่ 94% เป็นคอนโดฯ ที่เน้นขายในตลาดเกรดซี ส่วนคอนโดฯ ไฮไลต์เกรดบี บริเวณแยกบางนา-สุขุมวิท ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 120,000 บาทต่อ ตร.ม. จากศักยภาพข้างต้นทำให้เชื่อว่าจะมีผู้ประกอบการพัฒนาโครงการคอนโดฯ ในย่านนี้เพิ่มมากขึ้น ส่วนบ้านแนวราบจะขยับเข้าไปพัฒนาในซอย เนื่องจากที่ดินมีราคาแพง โดยคาดว่าภายใน 5 ปี จะมีคอนโดฯ เปิดใหม่ไม่น้อยกว่า 10,000 ยูนิต