ก.ล.ต.เพิกถอนการให้ความเห็นชอบผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุน “จัสมิน ดินแดง” สังกัด บล. เคเคเทรด หรือ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) ในปัจจุบัน ฐานใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง และใช้ชื่อและลงลายมือชื่อของบุคคลอื่นในการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้ารายหนึ่ง และจากรายงานของ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เกี่ยวกับนางสาวจัสมิน ดินแดง ขณะกระทำผิดสังกัด บล. เคเคเทรด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บล. หยวนต้า จึงตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างเดือนเมษายน 2556-ธันวาคม 2559 นางสาวจัสมิน ชักชวนให้ลูกค้าซื้อหุ้น IPO และลงทุนในกองทุนที่ไม่มีอยู่จริง รวมทั้งชักชวนให้ลูกค้ารับซื้อหุ้นที่มีการทำรายการผิดพลาด หรือให้ลูกค้าวางหลักประกัน และให้เปิดบัญชีมาร์จิน เพื่อหลอกลวงให้ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีบริษัท และบัญชีเงินฝากส่วนตัวของนางสาวจัสมิน
โดยไม่ได้ทำธุรกรรมตามที่กล่าวอ้างกับลูกค้า ในกรณีของการชักชวนให้ลงทุนในกองทุน นางสาวจัสมินยังได้จัดทำเอกสารเท็จว่า บริษัทมีการออกกองทุน จัดทำหนังสือชี้ชวนโดยใช้ชื่อบริษัท ระบุว่า ตนเองเป็นผู้จัดการกองทุน และลงลายมือชื่อเป็นผู้รับมอบอำนาจของบริษัทในการจัดทำเอกสารดังกล่าวด้วย
นางสาวจัสมิน ได้มีการเตรียมการนำเงินที่ลูกค้าโอนมาให้ไปซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีที่ตนเองเกี่ยวข้อง และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสั่งซื้อขาย รวมทั้งเป็นผู้รับประโยชน์จากการซื้อขาย รวม 4 บัญชี โดยบัญชีดังกล่าวเป็นของเพื่อนสนิท ญาติ และคนรู้จักของนางสาวจัสมิน ที่เปิดไว้ที่บริษัท และบริษัทหลักทรัพย์อื่น นอกจากนี้ นางสาวจัสมิน ยังใช้ชื่อและเอกสารของลูกค้ารายหนึ่งเพื่อปกปิดการเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ 3 แห่งอีกด้วย
ทั้งนี้ มีลูกค้าถูกหลอกลวงรวม 19 ราย ความเสียหายเป็นเงินรวมกว่า 112 ล้านบาท ซึ่งลูกค้าได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
การกระทำของนางสาวจัสมินข้างต้น เป็นการกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน ใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง และใช้ชื่อและลงลายมือชื่อของบุคคลอื่นในการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง ซึ่งเป็นการไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ หรือให้บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริตตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน* ก.ล.ต. จึงสั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุน และกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไปเป็นเวลา 10 ปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน 2561
ก.ล.ต. ขอย้ำให้ผู้ลงทุนระมัดระวังการชักชวนในลักษณะดังกล่าว โดยให้ตรวจสอบความมีอยู่จริงของหุ้น หรือกองทุนที่นำมาชักชวน หรือตรวจว่ามีการยื่นขออนุญาตเสนอขายกับ ก.ล.ต. หรือไม่ โดยอาจสอบถามจากบริษัทหลักทรัพย์ในสังกัดของผู้แนะนำการลงทุนโดยตรง หรือสอบถามจาก ก.ล.ต. นอกจากนี้ ผู้ลงทุนไม่ควรโอนเงินของตนให้ผู้แนะนำการลงทุนโดยตรง เพราะอาจเป็นช่องทางให้มีการทุจริตเงินของผู้ลงทุนได้