xs
xsm
sm
md
lg

หลายปัจจัยภายนอกกดดันตลาดหุ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


โบรกฯ มองแนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลงตามภูมิภาค หลังข่าวข้อพิพาทการค้าสร้างความสับสน ขณะที่ Bond Yield สหรัฐฯ พุ่งส่อแววเฟดขึ้น ดบ.เร็ว

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล. ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบกว่า 1% เนื่องจากข่าวข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน สร้างความสับสนให้กับตลาดฯ โดยทางนายแลร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ได้กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้สั่งการให้คณะรัฐมนตรีร่างข้อตกลงการค้ากับจีนแต่อย่างใด หลังจากก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการร่างข้อตกลงการค้ากับจีนแล้ว อีกทั้งช่วงนี้ยังใกล้การเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ในวันที่ 6 พ.ย.นี้

นอกจากนี้ ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ก็ออกมาค่อนข้างดีมาก ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นมาใกล้ระดับ High เดิมที่ 3.24% โดยมาอยู่ที่ 3.2% แล้ว ทำให้ไปกดดัน Emerging Market และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้มากกว่าที่ตลาดฯ คาดไว้ รวมทั้งราคาน้ำมันดิบก็ได้ปรับตัวลงต่อ หลังจากที่สหรัฐฯ ได้ผ่อนผัน 8 ประเทศยังคงสามารถนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ได้หลังวันที่ 4 พ.ย.

ขณะที่วันนี้ให้ติดตามประธานาธิบดีของจีนจะกล่าวสุนทรพจน์ ซึ่งก็ให้จับตาดูว่าจะมีการพูดถึงเรื่องการค้ากับสหรัฐฯ หรือไม่ และติดตามตัวเลข PMI ภาคบริการของจีน และสหรัฐฯ พร้อมให้แนวรับ 1,660 จุด ส่วนแนวต้าน 1,690-1,700 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น