xs
xsm
sm
md
lg

สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 2 พ.ย.2561

- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเป็นวันแรกในรอบสี่วันเมื่อวันศุกร์ (2 พ.ย.) โดยถูกกระทบจากการทรุดตัวลงของราคาหุ้นแอปเปิล อิงค์ รวมทั้งการที่นักลงทุนกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่กระทรวงแรงงานของประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่ง และค่าจ้างรายชั่วโมงพุ่งขึ้นทะลุ 3% ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่สหรัฐฯ เผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ภายหลังเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวออกมาปฏิเสธรายงานข่าวของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการร่างข้อตกลงการค้ากับจีน ก่อนที่ในเวลาต่อมาไม่นาน ปธน.ได้เผยว่า เขาคิดว่า สหรัฐฯ จะบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีนได้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,270.83 จุด ลดลง 109.91 จุด หรือ -0.43% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,723.06 จุด ลดลง 17.31 จุด หรือ -0.63% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,356.99 จุด ลดลง 77.06 จุด หรือ -1.04%

สำหรับทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P ปรับตัวขึ้น 2.4% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 2.7%

- ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกต่อเนื่องเมื่อวันศุกร์ (2 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดลบสวนทางภูมิภาค โดยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 1.00 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 364.08 จุด และพุ่งแข็งแกร่ง 3.3% ในรอบสัปดาห์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.2559

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 11,518.99 จุด เพิ่มขึ้น 50.45 จุด หรือ 0.44% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 5,102.13 จุด เพิ่มขึ้น 16.35 จุด หรือ 0.32% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 7,094.12 จุด ลดลง 20.54 จุด หรือ -0.29%

- ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกันเมื่อวันศุกร์ (2 พ.ย.) ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งถูกกดดันจากความกังวลที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ภายหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่ง รวมถึงค่าจ้างรายชั่วโมงที่พุ่งสูงขึ้น ประกอบกับมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้สั่งการให้คณะรัฐมนตรีร่างข้อตกลงการค้ากับจีนตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้แต่อย่างใด

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 7,094.12 จุด ลดลง 20.54 จุด หรือ -0.29% ขณะที่ทั้งสัปดาห์ดัชนีพุ่งขึ้น 2.2% มากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.ย.

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ห้าเมื่อวันศุกร์ (2 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด ภายหลังสหรัฐฯ ประกาศผ่อนผันให้ 8 ประเทศยังคงสามารถนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ได้หลังวันที่ 4 พ.ย.

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 55 เซ็นต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 63.14 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และร่วงลง 6.6% ในรอบสัปดาห์ ซึ่งเป็นการลดลงสัปดาห์ที่สี่ติดต่อกัน

สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ส่งมอบเดือน ม.ค. ลดลง 6 เซ็นต์ หรือไม่ถึง 0.1% ปิดที่ 72.83 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ทั้งสัปดาห์ ลดลงไป 6.2% ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สี่เช่นกัน

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (2 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐฯ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 5.30 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 0.43% ปิดที่ 1,233.30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ขณะที่ทั้งสัปดาห์ ขยับลงเล็กน้อย 0.2%

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 2.1 เซ็นต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 14.756 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้น 12.9 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.5% ปิดที่ 875.7 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ธ.ค. พุ่งขึ้น 23.1 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2.1% ปิดที่ 1,104.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

- ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (2 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ

ยูโร ลดลงสู่ระดับ 1.1392 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับ 1.1409 ดอลลาร์สหรัฐฯ เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ระดับ 1.2964 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับ 1.3017 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลีย ลดลงแตะ 0.7192 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับ 0.7206 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.27 เยน จากระดับ 112.70 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0043 ฟรังก์ จากระดับ 1.0018 ฟรังก์ รวมทั้งปรับตัวขึ้นแตะที่ระดับ 1.3112 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3087 ดอลลาร์แคนาดา

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 25,270.83 จุด ลดลง 109.91 จุด, -0.43%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 7,356.99 จุด ลดลง 77.06 จุด, -1.04%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 2,723.06 จุด ลดลง 17.31 จุด, -0.63%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 11,518.99 จุด เพิ่มขึ้น 50.45 จุด, +0.44%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 5,102.13 จุด เพิ่มขึ้น 16.35 จุด, +0.32%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 7,094.12 จุด ลดลง 20.54 จุด, -0.29%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดีย ปิดที่ 35,011.65 จุด เพิ่มขึ้น 579.68 จุด, +1.68%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิดที่ 3,116.39 จุด เพิ่มขึ้น 55.54 จุด, +1.81%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดที่ 1,713.87 จุด เพิ่มขึ้น 6.95 จุด, +0.41%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ปิดที่ 5,906.29 จุด เพิ่มขึ้น 70.37 จุด, +1.21%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดที่ 26,486.35 จุด เพิ่มขึ้น 1,070.35 จุด, +4.21%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ปิดที่ 2,676.48 จุด เพิ่มขึ้น 70.24 จุด, +2.70%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดที่ 2,096.00 จุด เพิ่มขึ้น 71.54 จุด, +3.53%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดที่ 9,906.59 จุด เพิ่มขึ้น 61.85 จุด, +0.63%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดที่ 22,243.66 จุด เพิ่มขึ้น 556.01 จุด, +2.56%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดที่ 5,849.20 จุด เพิ่มขึ้น 8.40 จุด, +0.14%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดที่ 5,935.80 จุด เพิ่มขึ้น 9.90 จุด, +0.17%


กำลังโหลดความคิดเห็น