RICHY ประกาศทุ่มงบ 100 ล้านบาท สร้างมาตรฐานใหม่ รีแบรนด์ “The Rich” อัปเกรดสู่ระดับพรีเมียมจับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายระดับบน 5 โปรเจกต์ มูลค่ารวมกว่า 12,000 ล้านบาท พร้อมโหมจัดอีเวนต์งานใหญ่กระตุ้นยอดปลายปี เผยแผนปี 62 เปิด 4โครงการกว่าหมื่นล้าน เล็งปรับพอร์ต เล็งปรับพอร์ตเน้นแนวราบรับมือเกณฑ์ใหม่ LTV ฉุดตลาดคอนโดฯ
ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) (RICHY) ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์เดอะริช (The Rich) เลอริช (Lerich) ริชพาร์ค (Rich Park) (The Eight Collection) โครงการแนวราบแบรนด์เดอะริชบิซโฮม (The Rich Biz Home) และเดอะริชวิลล์ (The Rich Ville) กล่าวว่า จากสถานการณ์ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ยังมีความเปราะบางด้วยปัญหาเศรษฐกิจในปีนี้ เทรนด์ที่อยู่อาศัยในอนาคตกำลังเดินเข้าสู่ภาวะการ “ปรับเปลี่ยน” ด้วยปัจจัยหลากหลาย ทั้งการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ และเทคโนโลยีที่มีบทบาทในการพัฒนาโครงการเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับทั้งกลุ่มลูกค้าชาวไทย และชาวต่างชาติ
บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นสภาพตลาดที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ บนทำเลศักยภาพที่แนวโน้มมูลค่าที่ดินเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลานั้น ยังคงมีดีมานด์ที่ต่อเนื่อง โดยในไตรมาสนี้ บริษัทฯ ได้ลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เพื่อรีแบรนด์ “The Rich” สู่ระดับพรีเมียม มุ่งตอบสนองชีวิตคนรุ่นใหม่ ทันสมัย มีความเป็นตัวของตัวเอง ระดับราคาขายเฉลี่ย 150,000 บาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.) ขึ้นไป เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ
โครงการของ RICHY ภายใต้แบรนด์ The Rich ประกอบด้วย 1. The Rich สาทร ตากสิน มูลค่า 2,100 ล้านบาท 2. The Rich เพลิตจิต นานา มูลค่า 4,000 ล้านบาท ก่อสร้างเสร็จปี 2563 3. The Rich พระราม 9-ศรีนครินทร์ ทริปเปิ้ลสเตชั่น มูลค่า 2,500 ล้านบาท 4. The Rich เอกมัย มูลค่า 3,400 ล้านบาท และ 5. The Rich อเวนิว มูลค่า 400 ล้านบาท
ทั้งนี้ มีโครงการที่จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ คือ The Rich พระราม 9-ศรีนครินทร์ ทริปเปิ้ลสเตชั่น ถือเป็นเฟส 2 จากโครงการเดิม (ริช พาร์ค เปิดปลายปี 59 ราคาต่อ ตร.ม. 1.1 แสนบาท ราคาเปิด 1.89 ล้านบาท) ที่เปิดตัววันเดียวยอดขายทะลุ 1,000 ล้านบาท สำหรับโปรเจกต์นี้เป็นโครงการ Mixed use รวม 1 อาคาร 32 ชั้น 558 ยูนิต ราคาขายต่อ ตร.ม. 1.2 แสนบาท ราคาเปิด 2.92-5 ล้านบาทเศษ จะเปิดพรีเซลในวันที่ 3 พ.ย.61 ตั้งเป้ายอดขายในงาน 50% ของมูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท ขณะที่คอนโดฯ ในโซนนี้จะเสนอราคา 1.3-1.4 แสนบาท และเมื่อเทียบกับคอนโดฯ ย่านพระราม 9 ที่มีการทำราคาอยู่ที่ 1.8-2 แสนบาท จะมีส่วนต่างของราคาประมาณ 30% โดยโครงการจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่ประมาณ ไตรมาส 2 ปี 2564 ชูจุดเด่นติดรถไฟฟ้า 3 สาย สีเหลือง, สีแดงอ่อน และ แอร์พอร์ต เรล ลิงก์
ทั้งนี้ ในช่วงปลายปีนี้ บริษัทเตรียมจัดงาน Richy Final Price ในวันที่ 8-14 พ.ย.61 ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว โดยนำทุกโครงการที่อยู่ระหว่างการขายมาจัดโปรโมชัน พร้อมกับการจัดงานโปรโมชันของโครงการ The Rich นานา ที่สำนักงานขายในวันที่ 16-17 พ.ย.61 ซึ่งบริษัทคาดหวังการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงโค้งสุดท้ายของปี และคาดว่าจะมียอดขายที่ได้จากทั้ง 2 งาน รวมไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
นางอาภา กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจในปี 62 ว่า มั่นใจรายได้จะทำได้ตามเป้ามาย 3,000 ล้านบาท โดยเติบโตอย่างก้าวกระโดดจาก 1,330 ล้านบาทในปีก่อน เพราะมีการโอนโครงการจำนวนมาก ขณะที่การโอนจะยังมีอยู่ต่อเนื่องในปี 62 ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) 4,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปีหน้า พร้อมกันนั้น บริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการคิดเป็นมูลค่า 9,300 ล้านบาท พร้อมเร่งระบายโครงการพร้อมโอน (สต๊อก) ที่มีอยู่ 6 โครงการ จำนวน 1,200 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 4,100 ล้านบาท
สำหรับแผนเปิดโครงการ จะมีการเปิดโครงการใหม่ในปี 62 จำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 10,000 ล้านบาท โดยโครงการคอนโดมิเนียมทั้งหมดจะใช้แบรนด์ The Rich และ Rich Park ซึ่งระดับราคาจะแตกต่างกันไปในแต่ละทำเล ขณะนี้มีที่ดินรองรับแล้ว 3 แปลง โดยมีแปลงที่ดินโครงการ The Rich เอกมัย มูลค่า 3.4 พันล้านบาทที่เลื่อนมาเปิดในปี 62 เนื่องจากการออกแบบยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งโครงการนี้จะเป็นโครงการไฮไลต์ในปีหน้า
“เรามองว่า ผลจากการมาตรการการกำกับดูแลสินเชื่อของ ธปท.น่าจะส่งผลกระทบ ทำให้บริษัทจะต้องไปเพิ่มพอร์ตโครงการแนวราบมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนเพียง 5% เพื่อกระจายความเสี่ยง”.