xs
xsm
sm
md
lg

ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง มั่นใจเทรดวันแรกเหนือจอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง มั่นใจเข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรก 24 ต.ค.นี้ หุ้นยืนเหนือราคาจอง แจกความสุขให้กับนักลงทุน เหตุกระแสตอบรับจากนักลงทุนสถาบันและรายย่อยความต้องการสูง อวดรายได้โตไม่ต่ำกว่า 30% ต่อปี กำไรแรงทะลุมิติ เล็งเข้าร่วมประมูลงานโครงการใหม่ๆ ต่อเนื่อง

นายจตุรงค์ ศรีกุลเรืองโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)(TIGER) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อิงเกอร์ จำกัด (TEC) เชื่อมั่นว่า หุ้น TIGER ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 24 ตุลาคมนี้ จะสามารถยืนเหนือราคาเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่หุ้นละ 3.65 บาท เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ผลประกอบการเติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่อง ประกอบกับมีผู้บริหาร และบุคลากรที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในธุรกิจรับเหมาและออกแบบมายาวนาน

ทั้งนี้ TIGER ประกอบธุรกิจลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยในปัจจุบัน บริษัทฯ มีการถือหุ้น 99.99% ในบริษัท ไทย อิงเกอร์ จำกัด (TEC) หรือบริษัทแกน ซึ่งเป็นบริษัทแกน (Core Company) ประกอบธุรกิจให้บริการรับเหมาก่อสร้างงานวิศวกรรมโยธาทุกประเภท รวมทั้งงานออกแบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม (Construction Contractor-Build & Design)
 
นอกจากนี้ ยังประกอบธุรกิจสนับสนุนงานรับเหมาก่อสร้าง ได้แก่ 1) ธุรกิจออกแบบและผลิต พร้อมติดตั้งอุปกรณ์จากกระจกและอลูมิเนียม สำหรับงานสถาปัตยกรรมและงานตกแต่งดำเนินการโดยบริษัท ทีอีจี อลูมินั่ม จำกัด หรือ TEA และ 2) ธุรกิจออกแบบและผลิต พร้อมติดตั้งระบบน้ำดี และน้ำเสีย รวมทั้งจัดหาและจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างอื่นๆ ดำเนินการโดย บริษัท ทีอี แมค จำกัด หรือ TEM ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลังในปี 2558-2560 และ 6 เดือนแรกของปี 2561 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.29 ล้านบาท 36.65 ล้านบาท 67.74 ล้านบาท และ 31.30 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นการเติบโตของกำไรสุทธิที่ 294.72% ในปี 2559 และ 84.82% ในปี 2560 และ 20.38% เมื่อเทียบ 6 เดือนแรกของปี 2561 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเมื่อพิจารณาเป็นอัตรากำไรสุทธิ กลุ่มบริษัทมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 2.51%, 7.40%, 10.99% และ 8.85% ในปี 2558-2560 และ 6 เดือนแรกของปี 2561 ตามลำดับ
 
“ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของ TIGER เติบโตอย่างแข็งแกร่ง รายได้รวมเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว่า 30% ต่อปี ขณะที่กำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูง เป็นตัวเลข 2 หลักมาโดยตลอด หรือเฉลี่ยประมาณ 16-18% และที่สำคัญงานที่เรารับส่วนใหญ่จะเป็นงานที่มาร์จินอยู่ในระดับสูง เนื่องจากเป็นงานที่ต้องใช้ทีมงานที่มีประสบการณ์ ทำให้ลูกค้าแนะนำปากต่อปาก ซึ่งหลังจากที่ TIGER ได้รับเงินจากการขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ จะยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าประมูลงานใหม่ๆ ที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น ทำให้ธุรกิจเติบโตก้าวกระโดด”

ปัจจุบัน บริษัทมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และอยู่ระหว่างเข้าร่วมประมูลงานใหม่ๆ อีกหลายโครงการ
ทั้งภาครัฐ และเอกชน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ โดยปัจจุบัน สัดส่วนงานภาคเอกชน และภาครัฐ อยู่ที่ 60:40 ซึ่งในอนาคตวางเป้าหมายงานภาคเอกชน และภาครัฐ อยู่ที่ 50:50 เพื่อกระจายความเสี่ยงการดำเนินธุรกิจ

นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม สายงานวาณิชธนกิจ-ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TIGER) มั่นใจว่า TIGER จะกลายเป็นหุ้นน้องใหม่ ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักลงทุน เนื่องจากในอนาคตมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะในส่วนของงานภาครัฐ จากการที่รัฐบาลมีโยบายขยายการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งบริษัทฯ เตรียมเข้าประมูลงานใหม่เป็นจำนวนมาก โดยมีหลายโปรเจกต์ที่เตรียมประกาศผลในเร็วๆ นี้ ผลักดันผลงานในปี 2562 เติบโตอย่างก้าวกระโดด

ทั้งนี้ หุ้น TIGER จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และก่อสร้าง ในวันที่ 24 ตุลาคม 2561


กำลังโหลดความคิดเห็น