หุ้นยังได้รับปัจจัยกดดันจากต่างประเทศเป็นหลัก สัปดาห์หน้าลุ้นเกิดเทคนิเคิลรีบาวนด์

หุ้นส่งท้ายสัปดาห์ปิดร่วง 15.00 จุด โดยมีปัจจัยกดดันจากต่างประเทศเป็นหลัก สำหรับผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ งวดไตรมาส 3/61 ก็ออกมาตามที่คาดไว้ ไม่มี Surprise ในทางบวกให้กับตลาดฯ จึงทำให้ยังมีแรงขายหุ้นบิ๊กแคปออกมา คาดว่าคงจะเป็นแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ทำให้ภาพ Fund Flow ยังไหลออกต่อเนื่อง สัปดาห์หน้าลุ้นเกิดเทคนิเคิลรีบาวนด์

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (19 ต.ค.) ปรับตัวลง เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา ขณะเดียวกัน เจอแรงกดดันจากต่างประเทศ ทั้งการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป และปัญหางบประมาณของอิตาลี รวมไปถึงกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และข้อพิพาทระหว่างสหรัฐฯ กับซาอุดิอาระเบีย

สำหรับบ้านเรา ผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ งวดไตรมาส 3/61 ก็ออกมาตามที่คาดไว้ ไม่มี Surprise ในทางบวกให้กับตลาดฯ จึงทำให้ยังมีแรงขายหุ้นบิ๊กแคปออกมา คาดว่าคงจะเป็นแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ทำให้ภาพ Fund Flow ยังไหลออกต่อเนื่อง

แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า หลังจากดัชนีฯ สามารถยืนเหนือระดับ 1,665 จุดได้ ก็ทำให้ยังมีโอกาสที่จะเกิดเทคนิเคิลรีบาวนด์ พร้อมให้แนวรับ 1,665-1,640 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680-1,700 จุด

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดส่งท้ายสัปดาห์ที่ระดับ 1,667.91 จุด ลดลง 15.00 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.89% มูลค่าการซื้อขาย 62,259.86 ล้านบาท

โดยแนวโน้มสัปดาห์หน้าให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม Real Sector และการประกาศตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของสหรัฐฯ ในงวดไตรมาส 3/61 รวมถึงการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)