“กระทรวง จารุศิระ” เจ้าของโครงการซุปเปอร์เทรดเดอร์ กำลังถึงจุดจบ หลังถูกเปิดโปงพฤติกรรมการลงทุนในบางแง่มุม จนถูกตั้งคำถามถึงตัวตนที่แท้จริงของนักลงทุนรุ่นใหม่รายนี้
ชื่อเสียงที่สร้างสมมานับสิบปี ในฐานะนักลงทุน วี.ไอ. หรือนักลงทุนหุ้นมูลค่าเพิ่มที่ประสบความสำเร็จ ควบคู่กับภาพนักเก็งกำไรระยะสั้นตัวฉกาจ กำลังเสื่อมสลาย เพราะมุมด้านมืดที่ถูกขุดคุ้ยตีแผ่
หลายปีที่ผ่านมา นายกระทรวง กลายเป็นศาสดาของการซื้อขายรายวัน หรือเดย์เทรด และอวดอ้างว่า สามารถทำเงินได้มากมาย
การเล่นหุ้นเดย์เทรด มีขบวนการที่พยายามมอมเมานักลงทุน โดยโฆษณาชวนเชื่อ อ้างว่า ร่ำรวยจากการซื้อขายรายวัน โดยแสดงรายการซื้อขายหุ้นรายตัว พร้อมตัวเลขกำไรนับหมื่นนับแสนบาทภายในวันเดียว ซึ่งโพสต์ในโลกโซเชียลเป็นระยะ
นายกระทรวงพยายามสร้างฐานแฟนคลับ ขยายสมาชิกซุปเปอร์เทรดเดอร์ เพื่อตั้งเครือข่ายการลงทุน ซึ่งสามารถใช้เป็นอำนาจต่อรองเพื่อให้เข้าถึงบริษัทจดทะเบียน
ขณะนี้ยังไม่อาจพิพากษาได้ว่า นายกระทรวงเป็นเพียงนักสร้างภาพ เพื่อแสวงหาโอกาสตักตวงผลประโยชน์จากตลาดหุ้นให้ตัวเองหรือไม่
แต่ถ้าพิสูจน์ได้ว่า นายกระทรวงเป็น “ของปลอม” โดยอวดอ้างความสำเร็จจากการลงทุน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ สิ่งที่ต้องตั้งคำถามต่อไปคือ
ทำไมเด็กหนุ่มในคราบนักลงทุนรุ่นใหม่ ที่ตักตวงความร่ำรวยจากหุ้นคนนี้ จึงได้รับการยกย่องมานานนับสิบปี ไม่เฉพาะในหมู่นักลงทุนเท่านั้น แม้แต่ตลาดหลักทรัพย์ยังโหนกระแส ให้การสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ
นักสร้างภาพในตลาดหุ้นมีอยู่เยอะ บางคนอวดอ้างเป็นตัวแทนนักลงทุนรายย่อย พร้อมจะต่อสู้เพื่อรักษาผลประโยชน์รายย่อย เพื่อสร้างอำนาจต่อรองผลประโยชน์ของตัวเอง และมักปรากฏตัวในการประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทจดทะเบียนต่าง ๆ
บริษัทจดทะเบียนแห่งใดหยิบยื่นผลประโยชน์ให้ จะชื่นชมสุดลิ่มทิ่มประตู และคอยตอบโต้ผู้ถือหุ้น ที่พยายามซักฟอกผู้บริหารบริษัท ฯ
บริษัทจดทะเบียนใดที่ไม่ยอมหยิบยื่นผลประโยชน์ตามที่ต้องการ จะหาเรื่องโจมตีกลางที่ประชุมผู้ถือหุ้น จนผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งเอือมระอาในพฤติกรรม
นักสร้างภาพบางพวก ก่อความเสียหายในตลาดหุ้นร้ายแรง โดยเฉพาะบรรดาคนที่อวดอ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญการซื้อขายเก็งกำไรรายวันทั้งหลาย
ไม่ว่าจะซื้อขายหุ้น ซื้อขาย Derivative Warrants หรือ DW บล็อกเทรดและการซื้อขายสัญญา SET50 Index Futures
ปัจจุบันมีคนที่หน้าตาอ่อนประสบการณ์การลงทุนจำนวนไม่น้อย อวดอ้างเป็นกูรูการซื้อขายเก็งกำไรรายวัน และเปิดอบรมหลักสูตรสอนการซื้อขายรายวันกันต่อเนื่อง
ที่สำคัญตลาดหลักทรัพย์ กลับสนับสนุนบรรดากูรูเหล่านี้ในการทำกิจกรรม รวมทั้งโครงการซุปเปอร์เทรดเดอร์ของนายกระทรวง
หลายปีแล้วที่นายกระทรวง ได้รับการสถาปนาเป็นแบบอย่างของผู้ประสบความสำเร็จจากการซื้อขายหุ้นรายวัน และบ่มเพาะนักลงทุนรุ่นใหม่ที่หวังรวบรัด รวยเร็วจากการซื้อขายหุ้นรายวันจำนวนมาก
ทั้งที่โอกาสการเก็บเกี่ยวความร่ำรวยจากการซื้อขายรายวัน เป็นเพียงความเพ้อฝัน และโอกาสที่เกิดขึ้นจริงมีไม่ถึง 1 ใน 100
ความร่ำรวยในพริบตาจากเดย์เทรด จึงเป็นเพียงนิยายโกหกหลอกลวงเสียส่วนใหญ่
การเปิดโปงพฤติกรรมของนายกระทรวง จะส่งผลกระทบต่อโครงการซุปเปอร์เทรดเดอร์ ซึ่งจัดแข่งขันชิงรางวัลกันหลายปีติดต่อ โดยโครงการอาจต้องปิดฉากลง เพราะหมดความน่าเชื่อถือ
ส่วนบรรดากูรูที่อวดอ้างว่าร่ำรวยจากการซื้อขายเก็งกำไรรายวัน และสถาปนาตัวเองเป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ จะถูกตั้งข้อสงสัยว่า เป็นพวกขี้โม้โฆษณาชวนเชื่อหรือไม่
พฤติกรรมการเก็งกำไรครอบงำตลาดหลักทรัพย์มาพักใหญ่แล้ว จนปรัชญาตลาดหุ้นผิดเพี้ยนไป จากแหล่งระดมทุนและแหล่งลงทุน กลายเป็นแหล่งมั่วสุมของนักเก็งกำไร
ถึงเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์ต้องสังคายนาบทบาทตัวเอง จะสนับสนุนใคร ต้องเลือกเฟ้นคนดี เพื่อชี้นำนักลงทุนในเชิงสร้างสรรค์ ไม่ใช่มอมเมาให้เป็นนักเก็งกำไรระยะสั้น
และทบทวนนโยบายการพัฒนาตลาดหุ้น เพราะถ้ามุ่งแต่สร้างผลงาน ด้วยการเติบโตในเชิงปริมาณ ส่งเสริมสนับสนุนการซื้อขายเก็งกำไรรายวันต่อไป อีกไม่นานตลาดหุ้นจะมีแต่นักเก็งกำไรซื้อขายวันต่อวัน
ถ้าตลาดหุ้นเต็มไปด้วยนักเก็งกำไร หายนะครั้งใหญ่คงหนีไม่พ้น ลัทธิเดย์เทรด ควรจะถูกกลบฝังไป พร้อมกับศาสดาของลัทธิ “กระทรวง จารุศิระ”