หลังจากธนาคารกสิกรไทยพึ่งปรับโฉม K PLUS ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันโมบาย แบงกิ้ง อันดับหนึ่ง จนลือลั่นสนั่นเมืองไปหมาดๆ ทางธนาคารก็มีการปรับแอป K PLUS Shop ซึ่งถือเป็นแอปพี่แอปน้อง สำหรับร้านค้ารับชำระเงินจากลูกค้า ควบคู่กันไปด้วย โดย K PLUS Shop เวอร์ชันใหม่ จะช่วยร้านค้าค้าขายสะดวกยิ่งขึ้น ด้วย 9 ฟีเจอร์ปังปังโดนใจ
1. สุดยอด QR Code 2 แบบ ร้านค้าสามารถสร้าง QR Code ได้ทั้งแบบระบุยอดเงิน และไม่ระบุยอดเงิน โดยแบบระบุยอดเงิน ลูกค้าสามารถสแกนแล้วกดจ่ายได้ทันที โดยไม่ต้องใส่จำนวนเงิน ทำให้ชำระเงินได้สะดวก รวดเร็ว ส่วน QR Code แบบไม่ระบุยอดเงิน เหมาะกับร้านค้าที่ต้องการให้ผู้ซื้อระบุยอดเงินด้วยตนเอง
2. แจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีพร้อมเสียงพูด อันนี้เจ๋งสุดๆ ทุกครั้งที่มีเงินเข้าบัญชี จะมีข้อความเตือนเงินเข้าให้รู้ทันที พร้อมเสียงพูดแจ้งยอดเงินให้ทราบ เหมาะกับเจ้าของร้านที่ไม่มีเวลามองหน้าจอโทรศัพท์ ก็สามารถฟังเสียงแจ้งเตือน และรู้ยอดเข้าได้ทันทีแบบไม่ผิดพลาด แถมยังสามารถตรวจสอบรายการโอนเงินจากลูกค้าได้ง่ายๆ ด้วยการแสดงไอคอนของแต่ละธนาคาร
3. เพิ่มบัญชีพนักงานของร้านค้า สำหรับเจ้าของธุรกิจที่มีหลายสาขา หรือไม่สามารถอยู่เฝ้าร้านตลอดเวลาได้ สามารถเพิ่มสิทธิให้พนักงานดูแลแทนและรับแจ้งเตือนเงินเข้าได้สูงสุด 10 คน เงินเข้าเมื่อไหร่ พนักงานเห็น เจ้าของร้านรู้ด้วยข้อมูลเดียวกัน หมดกังวลเรื่องพนักงานจิ๊กเงิน เจ้าของร้านมีเวลาบริหารธุรกิจอย่างอื่นๆ เพิ่มขึ้น
(ภาพประกอบ 2 เพิ่มสิทธิพนักงาน)
4. สร้างบิล QR เรียกเก็บเงินทางโซเชียลมีเดียด้วยฟีเจอร์ “บิลแมวเขียว” อันนี้เป็นฟีเจอร์ใหม่ในฝัน เป็นบิลออนไลน์ที่ช่วยแม่ค้าที่ขายของผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ซื้อต้องจำเลขที่บัญชี และเสียเวลาเปิดหลายหน้าจอก่อนจะจ่ายตังค์ได้ ในฝั่งคนขายก็เสี่ยงจะเจอสลิปปลอม ต้องเสียเวลาในการตรวจสอบข้อมูลการโอนเงินของลูกค้าแต่ละราย แต่ถ้าแม่ค้าออนไลน์สร้างบิลแมวเขียว ส่งผ่านโซเชียลมีเดียปุ๊บ ลูกค้ากดชำระปั๊บ ก็ได้รับเงินถูกต้องทันที โดยใส่รายการสินค้าได้ถึง 10 รายการ ช่วยให้เรียกเก็บเงินได้สะดวกไม่ผิดพลาด แม้ว่าบิลแมวเขียวจะมีอายุ 24 ชั่วโมง แต่หากเกินเวลาชำระ แม่ค้าสามารถส่งซ้ำได้โดยไม่ต้องสร้างบิลใหม่ให้เสียเวลา ซึ่งฟีเจอร์นี้สร้างความสะดวกสบายให้กับแม่ค้าออนไลน์ได้มากทีเดียว
(ภาพประกอบ 3 บิลแมวเขียว QR)
5. ร้านค้าออนไลน์จัดการเรื่องขนส่งง่ายๆ ด้วย Shippop การส่งของให้ลูกค้าถือเป็นหัวใจสำคัญในการขายของออนไลน์ K PLUS Shop มีการเชื่อมต่อกับระบบของ Shippop ที่แสดงสถานะการจัดส่งสินค้าชัดเจน เช็กสถานะได้ ชำระค่าขนส่งสะดวก และยังช่วยทำใบแปะหน้ากล่องพัสดุอัตโนมัติ เรียกได้ว่าสะดวกง่าย ปลอดภัย ทำให้ไม่พลาดแม้แต่ออเดอร์เดียว นอกจากนี้ Shippop ยังช่วยเปรียบเทียบราคาการขนส่งแต่ละวิธี ทำให้ร้านค้าบริหารต้นทุนได้สะดวกยิ่งขึ้น
(ภาพประกอบ 4 จัดการเรื่องขนส่ง)
6. รับชำระเงินจาก e-wallet ต่างประเทศ K PLUS Shop รับชำระได้หมดทั้ง Alipay / WeChat Pay สองค่ายดังจากเมืองจีน ที่มีฐานลูกค้าหลายร้อยล้านคน จบปัญหาเรื่องการรับเงินจากนักท่องเที่ยวชาวจีน คนจีนเห็นราคาเป็นหยวน แม่ค้าคนไทยเห็นรายรับเป็นบาท แถมแม่ค้าสมัครเองผ่านแอปฯ ได้เลยไม่ต้องยุ่งยากนำเอกสารไปสมัครที่สาขาของธนาคาร
(ภาพประกอบ 5 Alipay / WeChat pay)
7. รายงานยอดขาย K PLUS Shop สามารถรายงานยอดขายอย่างละเอียดทั้งรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน ช่วยบริหารการขาย เก็บสถิติร้านค้า แสดงรายงาน สรุปให้เข้าใจได้ง่าย และช่วยให้เข้าใจลูกค้ามากขึ้น ทั้งลูกค้าใหม่ ลูกค้าเดิม หรือลูกค้าประจำ
(ภาพประกอบ 6 รายงานยอดขาย)
8. บัตรสะสมแสตมป์ อีกฟีเจอร์ที่ทำให้ K PLUS Shop เป็นแอปที่ร้านค้าต้องมี คือ การสร้าง Loyalty Program ที่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า ด้วยบัตรสะสมแสตมป์ออนไลน์ที่ช่วยให้เอสเอ็มอีสามารถทำการตลาดมัดใจให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้อย่างต่อเนื่อง
(ภาพประกอบ 7 บัตรสะสมแสตมป์)
9. เปิดตลาดเพิ่มยอดขายบน K PLUS ที่มีผู้ใช้งานกว่า 9.4 ล้านราย ด้วยฟีเจอร์ที่ช่วยให้แม่ค้าเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าผ่าน K PLUS Market ซึ่งเป็น E-Marketplace ของแอปพลิเคชัน K PLUS ที่มีฐานลูกค้ากว่า 9.4 ล้านราย และยังสามารถทำโปรโมชั่นบน K PLUS เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและร้านค้าให้เป็นที่รู้จักได้อีกด้วย
K PLUS Shop โฉมใหม่ พร้อมฟีเจอร์ล้ำๆ เหมือนเป็นอาวุธยุคใหม่ที่จะช่วยร้านค้าทำมาค้าขายได้สะดวกขึ้น สร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับเอสเอ็มอี โดยเฉพาะฟีเจอร์เหล่านี้มีการพัฒนาสำเร็จรูปและลงตัวมาแล้ว โดยร้านค้าไม่ต้องลงแรง ลงทุนพัฒนาอะไร ช่วยให้ปลาเล็กสามารถสู้กับปลาใหญ่ในสนามแข่งขันของตัวเองได้อย่างไม่ต้องเกรงกลัว โดยเฉพาะในยุคโลกเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แค่กระพริบตาเราอาจจะตกยุคได้ทุก การใช้เทคโนโลยี่จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะยืดหยัดอยู่ในสนามการแข่งขันได้
ข้อมูล K PLUS SHOP (as of Sep 2018)
K PLUS SHOPAs of Sep 18
จำนวนร้านค้า1.67 ล้าน ร้านค้า
จำนวนธุรกรรม6.0 ล้าน รายการ
มูลค่าธุรกรรม8,785 ล้านบาท
1. สุดยอด QR Code 2 แบบ ร้านค้าสามารถสร้าง QR Code ได้ทั้งแบบระบุยอดเงิน และไม่ระบุยอดเงิน โดยแบบระบุยอดเงิน ลูกค้าสามารถสแกนแล้วกดจ่ายได้ทันที โดยไม่ต้องใส่จำนวนเงิน ทำให้ชำระเงินได้สะดวก รวดเร็ว ส่วน QR Code แบบไม่ระบุยอดเงิน เหมาะกับร้านค้าที่ต้องการให้ผู้ซื้อระบุยอดเงินด้วยตนเอง
2. แจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีพร้อมเสียงพูด อันนี้เจ๋งสุดๆ ทุกครั้งที่มีเงินเข้าบัญชี จะมีข้อความเตือนเงินเข้าให้รู้ทันที พร้อมเสียงพูดแจ้งยอดเงินให้ทราบ เหมาะกับเจ้าของร้านที่ไม่มีเวลามองหน้าจอโทรศัพท์ ก็สามารถฟังเสียงแจ้งเตือน และรู้ยอดเข้าได้ทันทีแบบไม่ผิดพลาด แถมยังสามารถตรวจสอบรายการโอนเงินจากลูกค้าได้ง่ายๆ ด้วยการแสดงไอคอนของแต่ละธนาคาร
3. เพิ่มบัญชีพนักงานของร้านค้า สำหรับเจ้าของธุรกิจที่มีหลายสาขา หรือไม่สามารถอยู่เฝ้าร้านตลอดเวลาได้ สามารถเพิ่มสิทธิให้พนักงานดูแลแทนและรับแจ้งเตือนเงินเข้าได้สูงสุด 10 คน เงินเข้าเมื่อไหร่ พนักงานเห็น เจ้าของร้านรู้ด้วยข้อมูลเดียวกัน หมดกังวลเรื่องพนักงานจิ๊กเงิน เจ้าของร้านมีเวลาบริหารธุรกิจอย่างอื่นๆ เพิ่มขึ้น
(ภาพประกอบ 2 เพิ่มสิทธิพนักงาน)
4. สร้างบิล QR เรียกเก็บเงินทางโซเชียลมีเดียด้วยฟีเจอร์ “บิลแมวเขียว” อันนี้เป็นฟีเจอร์ใหม่ในฝัน เป็นบิลออนไลน์ที่ช่วยแม่ค้าที่ขายของผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ซื้อต้องจำเลขที่บัญชี และเสียเวลาเปิดหลายหน้าจอก่อนจะจ่ายตังค์ได้ ในฝั่งคนขายก็เสี่ยงจะเจอสลิปปลอม ต้องเสียเวลาในการตรวจสอบข้อมูลการโอนเงินของลูกค้าแต่ละราย แต่ถ้าแม่ค้าออนไลน์สร้างบิลแมวเขียว ส่งผ่านโซเชียลมีเดียปุ๊บ ลูกค้ากดชำระปั๊บ ก็ได้รับเงินถูกต้องทันที โดยใส่รายการสินค้าได้ถึง 10 รายการ ช่วยให้เรียกเก็บเงินได้สะดวกไม่ผิดพลาด แม้ว่าบิลแมวเขียวจะมีอายุ 24 ชั่วโมง แต่หากเกินเวลาชำระ แม่ค้าสามารถส่งซ้ำได้โดยไม่ต้องสร้างบิลใหม่ให้เสียเวลา ซึ่งฟีเจอร์นี้สร้างความสะดวกสบายให้กับแม่ค้าออนไลน์ได้มากทีเดียว
(ภาพประกอบ 3 บิลแมวเขียว QR)
5. ร้านค้าออนไลน์จัดการเรื่องขนส่งง่ายๆ ด้วย Shippop การส่งของให้ลูกค้าถือเป็นหัวใจสำคัญในการขายของออนไลน์ K PLUS Shop มีการเชื่อมต่อกับระบบของ Shippop ที่แสดงสถานะการจัดส่งสินค้าชัดเจน เช็กสถานะได้ ชำระค่าขนส่งสะดวก และยังช่วยทำใบแปะหน้ากล่องพัสดุอัตโนมัติ เรียกได้ว่าสะดวกง่าย ปลอดภัย ทำให้ไม่พลาดแม้แต่ออเดอร์เดียว นอกจากนี้ Shippop ยังช่วยเปรียบเทียบราคาการขนส่งแต่ละวิธี ทำให้ร้านค้าบริหารต้นทุนได้สะดวกยิ่งขึ้น
(ภาพประกอบ 4 จัดการเรื่องขนส่ง)
6. รับชำระเงินจาก e-wallet ต่างประเทศ K PLUS Shop รับชำระได้หมดทั้ง Alipay / WeChat Pay สองค่ายดังจากเมืองจีน ที่มีฐานลูกค้าหลายร้อยล้านคน จบปัญหาเรื่องการรับเงินจากนักท่องเที่ยวชาวจีน คนจีนเห็นราคาเป็นหยวน แม่ค้าคนไทยเห็นรายรับเป็นบาท แถมแม่ค้าสมัครเองผ่านแอปฯ ได้เลยไม่ต้องยุ่งยากนำเอกสารไปสมัครที่สาขาของธนาคาร
(ภาพประกอบ 5 Alipay / WeChat pay)
7. รายงานยอดขาย K PLUS Shop สามารถรายงานยอดขายอย่างละเอียดทั้งรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน ช่วยบริหารการขาย เก็บสถิติร้านค้า แสดงรายงาน สรุปให้เข้าใจได้ง่าย และช่วยให้เข้าใจลูกค้ามากขึ้น ทั้งลูกค้าใหม่ ลูกค้าเดิม หรือลูกค้าประจำ
(ภาพประกอบ 6 รายงานยอดขาย)
8. บัตรสะสมแสตมป์ อีกฟีเจอร์ที่ทำให้ K PLUS Shop เป็นแอปที่ร้านค้าต้องมี คือ การสร้าง Loyalty Program ที่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า ด้วยบัตรสะสมแสตมป์ออนไลน์ที่ช่วยให้เอสเอ็มอีสามารถทำการตลาดมัดใจให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้อย่างต่อเนื่อง
(ภาพประกอบ 7 บัตรสะสมแสตมป์)
9. เปิดตลาดเพิ่มยอดขายบน K PLUS ที่มีผู้ใช้งานกว่า 9.4 ล้านราย ด้วยฟีเจอร์ที่ช่วยให้แม่ค้าเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าผ่าน K PLUS Market ซึ่งเป็น E-Marketplace ของแอปพลิเคชัน K PLUS ที่มีฐานลูกค้ากว่า 9.4 ล้านราย และยังสามารถทำโปรโมชั่นบน K PLUS เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและร้านค้าให้เป็นที่รู้จักได้อีกด้วย
K PLUS Shop โฉมใหม่ พร้อมฟีเจอร์ล้ำๆ เหมือนเป็นอาวุธยุคใหม่ที่จะช่วยร้านค้าทำมาค้าขายได้สะดวกขึ้น สร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับเอสเอ็มอี โดยเฉพาะฟีเจอร์เหล่านี้มีการพัฒนาสำเร็จรูปและลงตัวมาแล้ว โดยร้านค้าไม่ต้องลงแรง ลงทุนพัฒนาอะไร ช่วยให้ปลาเล็กสามารถสู้กับปลาใหญ่ในสนามแข่งขันของตัวเองได้อย่างไม่ต้องเกรงกลัว โดยเฉพาะในยุคโลกเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แค่กระพริบตาเราอาจจะตกยุคได้ทุก การใช้เทคโนโลยี่จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะยืดหยัดอยู่ในสนามการแข่งขันได้
ข้อมูล K PLUS SHOP (as of Sep 2018)
K PLUS SHOPAs of Sep 18
จำนวนร้านค้า1.67 ล้าน ร้านค้า
จำนวนธุรกรรม6.0 ล้าน รายการ
มูลค่าธุรกรรม8,785 ล้านบาท