xs
xsm
sm
md
lg

เมืองไทย แคปปิตอล มั่นใจปีนี้ปล่อยสินเชื่อใหม่ทะลุ 8 หมื่น ล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เมืองไทย แคปปิตอล มั่นใจผลการดำเนินงานจะทุบสถิติสูงสุดทุกไตรมาส โดยเฉพาะครึ่งปีหลังจะเป็นช่วงการเติบโตมากสุด ยันปล่อยเสินเชื่อใหม่ทะลุ 8 หมื่นล้านบาท พร้อมยอดลูกหนี้คงค้างกว่า 4.14 หมื่นล้านบาท ขณะที่เดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง คาดสิ้นปีมีจำนวนสาขาเพิ่มเป็น 3,200 แห่ง ครองแชมป์ผู้ประกอบการมีสาขามากสุดในประเทศไทย

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรก 2561 บริษัทมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่ 36,620 ล้านบาท และลูกหนี้คงค้าง 41,469 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทุกอย่างเติบโตกว่า 40% ขณะที่มีกำไรสุทธิ 1,746 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.72 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน

“ตามที่ได้เคยประกาศว่าปีนี้ เราจะมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่, ลูกหนี้คงค้างเติบโต 40% ในช่วงครึ่งปีแรกได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เราสามารถบริหารงานได้ตรงตามเป้าไว้ทุกประการ และคาดว่า ยอดปล่อยทั้งปีประมาณ 80,000 ล้านบาท และลูกหนี้คงค้างประมาณ 50,000 ล้านบาท จึงไม่น่ามีปัญหา” นายชูชาติ กล่าว

สำหรับแนวโน้มครึ่งปีหลัง เรายังไม่กังวล เพราะโดยปกติธรรมชาติของธุรกิจนี้ ในครึ่งปีหลังจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก ดังนั้น เป้าหมายที่ตั้งไว้ ทั้งปีจะเติบโตที่ 40% จึงมั่นใจว่าทำได้แน่นอน

ส่วนแผนการเปิดสาขาปีนี้ ตั้งเป้าหมายที่จะเปิดสาขา จำนวน 600 สาขา เมื่อรวมกับสิ้นปีที่ผ่านมา มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 2,200 สาขา ปัจจุบันได้เปิดสาขาไปแล้วกว่า 800 แห่ง จึงมีจำนวนสาขามากกว่า 3,000 แห่ง และคาดว่าจนถึงสิ้นปีจะมีมากกว่า 3,200 แห่ง ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในประเทศไทย

ถึงแม้ว่าจะเปิดสาขามาก และปล่อยสินเชื่อออกไปจำนวนมากก็ตาม แต่ระดับหนี้เสีย หรือ NPL กลับทรงตัวระดับต่ำกว่า 1.50% ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้บริหารของบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล มีความสามารถในการบริหารจัดการหนี้เสียได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับแผนงานในปี 2562 บริษัทตั้งเป้าเปิดสาขาไว้จำนวน 600 สาขา เมื่อรวมกับสาขาเดิมที่เปิดไปแล้ว จึงคาดว่าภายในสิ้นปี 2562 ทางบริษัทจะมีสาขาทั้งสิ้น 3,800-4,000 สาขา

“การที่เรามีสาขาจำนวนมากขึ้น ทำให้เราสามารถขยายการบริการไปถึงลูกค้าที่อยู่ตามต่างจังหวัด และภูมิภาคต่างๆของประเทศ จึงทำให้มั่นใจว่าในปี 2562 สามารถรักษาการเติบโตถึง 35% ทั้งในด้านของการปล่อยสินเชื่อใหม่ ลูกหนี้คงค้าง และรวมทั้งผลกำไรของบริษัท ซึ่งจะเป็น New High ตลอดทุกปี และทุกไตรมาส”

นอกจากนี้ ในปี 2562 จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ดังนั้น เชื่อมั่นว่า สภาพคล่องทางการเงินของประชาชนจะมีสูงขึ้น ดังนั้น จึงไม่ได้กังวลต่อหนี้เสีย หรือ NPL แต่ประการใด แต่จะกลับเร่งขยายตัวโดยการเปิดสาขาไปตามภูมิภาคต่างๆ และรวมทั้งกรุงเทพมหานครเพิ่มขึ้นด้วย

สำหรับมุมมองการลงทุนของต่างชาติในธุรกิจนี้ จะเห็นว่ายังรอดูความชัดเจนของ พ.ร.บ.กำกับดูแลสถาบันการเงินจากกระทรวงการคลัง ที่จะประกาศใช้ ถ้า พ.ร.บ. ออกมา ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการ เช่น การกำหนดดอกเบี้ย, ค่าบริการ, ค่าติดตาม, ค่าผิดนัด ออกมาเป็นจำนวนชัดเจน เช่น 28%หรือ 36% จะทำให้นักลงทุนคลายความกังวล และจะเข้ามาลงทุนในหุ้น MTC เพิ่มขึ้นจำนวนมาก

“ผมมีความมั่นใจว่า พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวที่จะประกาศใช้ในสิ้นปีนี้นั้น จะออกมามีผลดีต่อผู้ประกอบการอย่างแน่นอน ซึ่งดูได้จากสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ซึ่งกระทรวงการคลังประกาศให้ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนสามารถทำธุรกิจจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ได้ และสามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยได้ถึง 36% ดังนั้น พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวน่าจะล้อไปกับสินเชื่อที่ประกาศออกมา อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุนไทยที่จะหันมาให้ความสนใจหุ้น MTC” นายชูชาติ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น