"วิโรจน์ ธนาลงกรณ์" ผู้ถือหุ้นใหญ่ "ซาบีน่า"เดินหน้าขายหุ้นใน 100 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 28.78ของทุนจดทะเบียนชําระแล้วของบริษัทฯ แก่นักลงทุนสถาบันในและต่างประเทศ หวังเพิ่มสภาพคล่องเกิดเสถียรภาพของราคาหุ้น SABINA ในตลาดรอง ยันอำนาจบริหารไม่เปลี่ยน
นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซาบีน่า จํากัด (มหาชน) หรือ SABINA แจ้งาบริษัทฯ ได้รับแจ้งจากนายวิโรจน์ ธนาลงกรณ์ประธานกรรมการและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯว่าได้ดําเนินการขายหุ้นสามัญเดิมในบริษัทฯ ของตนในวันที่ 20 กันยายน 2561โดยนายวิโรจน์ ธนาลงกรณ์ ได้ขายหุ้นใน 100 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 28.78 ของทุนจดทะเบียนชําระแล้วของบริษัทฯแก่นักลงทุนสถาบันในประเทศและจากต่างประเทศ รวมถึงนักลงทุนบุคคลรายใหญ่
โดยเป็นการขายให้แก่ผู้ลงทุนในวงจํากัดแบบข้ามคืน (Overnight Global Bookbuilding Transaction) ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ ราคา 25.0บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารายการ 2,500 ล้านบาท โดยราคาขายดังกล่าว กําหนดโดยวิธีการสํารวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Bookbuilding) กับผู้ลงทุนประเภทสถาบันภายหลังการขายในครั้งนี้ กลุ่มนายวิโรจน์ ธนาลงกรณ์ และครอบครัวจะยังคงเป็ นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทฯ โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นรวมกันทั้งสิ้นร้อยละ 51.86 ของทุนจดทะเบียนชําระแล้วของบริษัทฯ
การขายหุ้นดังกล่าว เพื่อเพิ่มสัดส่วนหุ้นที่สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ (Free Float) เสริมสร้างสภาพคล่องของหุ้น รวมถึงเพิ่มสัดส่วนของนักลงทุนสถาบันที่มีคุณภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดเสถียรภาพของราคาหุ้น SABINA ในตลาดรอง
โดยภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้ กลุ่มนายวิโรจน์ ธนาลงกรณ์ และครอบครัวจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทฯ มีสัดส่วนการถือหุ้นรวมกันทั้งสิ้นเท่ากับร้อยละ 51.86 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ โดยนายวิโรจน์ ธนาลงกรณ์ จะยังคงเป็นประธานกรรมการบริษัทฯ และเป็นผู้ร่วมกำหนดทิศทางการดำเนินงานของบริษัทฯ ร่วมกับกรรมการท่านอื่นๆ ดังเดิมโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ เป็นผลจากการที่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ ได้มีการนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุน (Roadshow) ในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศแสดงความสนใจที่จะลงทุนในหุ้นของบริษัทฯ เป็นจำนวนมาก เนื่องจากชื่นชมนโยบายการบริหารงานที่มีความคล่องตัว สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ที่มีความผันผวน รวมถึงความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เป็นผลให้สามารถสร้างการเติบโตทั้งรายได้และความสามารถในการทำกำไรในระดับที่สูงกว่าอุตสาหกรรมโดยรวม
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนดังกล่าวมีข้อจำกัดในการลงทุนในหุ้นของบริษัทฯ เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านสภาพคล่องและหุ้นมีความผันผวนค่อนข้างมาก จึงสอบถามมาทั้งทางบริษัทฯ และทางตนเองเกี่ยวกับแนวทางที่จะปรับปรุงเรื่องดังกล่าว
“ส่วนตัวผมไม่ได้มีความจำเป็นและไม่ได้อยากจะขายหุ้น แต่ได้รับการติดต่อมาจากนักลงทุนสถาบันหลายรายที่สนใจลงทุนในหุ้น SABINA ซึ่งทุกรายพูดถึงปัญหาเรื่องสภาพคล่อง และการผันผวนของราคาหุ้น เนื่องจากเดิมเราไม่มีฐานนักลงทุนสถาบันเลย การที่ผมตัดสินใจขายหุ้นในครั้งนี้ ผมเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อราคาหุ้นของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นทุกคนในระยะยาว นักลงทุนที่ลงทุนในครั้งนี้ส่วนมากก็เป็นกองทุนชั้นนำของประเทศ รวมถึงกองทุนระดับโลก เช่น กองทุน Templeton และ Capital Group เป็นต้น ซึ่งน่าจะส่งผลดีในเรื่องของสภาพคล่องและจะช่วยลดความผันผวนของราคาหุ้น เพราะเราจะมีฐานนักลงทุนสถาบันที่มีคุณภาพในสัดส่วนที่ใหญ่ขึ้นมาก ซึ่งจะส่งผลให้เสถียรภาพของราคาหุ้นดีขึ้น” นายวิโรจน์ กล่าวเสริม
สำหรับ การเสนอขายหุ้นในครั้งนี้เป็นการเสนอขายให้แก่นักลงทุนในวงจำกัด (Private Placement) ด้วยวิธีการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์และประมูลราคากับนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศแบบข้ามคืน (Overnight Global Bookbuilding) โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้น โดยได้รับความสนใจและการตอบรับเป็นอย่างสูงจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยสัดส่วนหุ้นที่สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ (Free Float) ของบริษัทฯ จะเพิ่มจากเดิมร้อยละ 19.4 เป็นร้อยละ 48.14