“คลัง” ยืนยันชดเชยแวตผู้ถือบัตรสวัสดิการใช้เงินกองทุนดูแล

“ปลัดคลัง” ยืนยันแผนชดเชยภาษีแวตผู้ถือบัตรสวัสดิการ นำเงินกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากมาช่วยเหลือ 5 พันล้านบาท หวังดึงร้านธงฟ้าจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น

นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ จังหวัดเพชรบูรณ์ พิจารณาแนวทางการช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการ 11.4 ล้านคน เมื่อชาวบ้านใช้จ่ายผ่านบัตร สำหรับซื้อสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน หรือสินค้าเกษตร อุปกรณ์การศึกษา ผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ ติดตั้งเครื่องรูดบัตร EDC โดยร้านค้าเชื่อมข้อมูลกับกรมบัญชีกลาง เพื่อนำยอดเงินใช้จ่ายจากบัตรเทียบเท่ากับภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากมาจ่ายชดเชย (Cash Back) คืนให้กับชาวบ้านเมื่อมีการใช้จ่าย เช่น หากซื้อสินค้าจากบัตรสวัสดิการ 500 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 จะได้ชดเชยคืนให้ 35 บาท เมื่อรัฐบาลกำหนดชดเชยคืนไม่เกิน 500 บาทต่อเดือนต่อราย ดังนั้น หากจะได้รับชดเชยคืนไม่เกิน 500 บาท ชาวบ้านต้องเติมเงินใส่เพิ่มเข้าไปในกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการประมาณ 7,000-8,000 บาทต่อเดือน กระทรวงการคลังจึงไม่ได้ทำผิดวินัยการคลัง แต่เพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส และใช้เงินกองทุนมาช่วยเหลือ

นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่เข้าร่วมโครงการในการจ่ายชดเชยต้องติดตั้งเครื่อง EDC และเครื่องคิดเลขคำนวณเงินจากการซื้อสินค้าต้องเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมสรรพากร และกรมบัญชีกลาง ดังนั้น หากต้องการให้จ่ายชดเชยเพิ่มมากขึ้น ชาวบ้านต้องเติมเงินในกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น และเมื่อชาวบ้านใช้บัตรรูดซื้อสินค้ารายการภาษีมูลค่าเพิ่มจะถูกส่งไปยังกรมสรรพากร จากนั้น กรมบัญชีกลางจะส่งเงินชดเชยคืนเข้ามาในบัตรวันที่ 15 ของเดือนถัดไป

ทั้งนี้ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ยอมรับว่า ช่วงแรกเน้นเฉพาะการใช้จ่ายกับร้านธงฟ้าประชารัฐติดตั้งเครื่อง EDC เท่านั้น จากนั้นค่อยขยายไปยังร้านค้าอื่นเพิ่ม มาตรการดังกล่าวจะส่งเสริมให้ร้านธงฟ้าจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้จำนวนมากขึ้น ต่อไป การใช้เงินแบบไร้เงินสดจะเพิ่มขึ้น หวังเพิ่มกำลังซื้อให้ผู้มีรายได้น้อย กำหนดเริ่มโครงการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561-เมษายน 2562 เพื่อทดลองนำร่องเป็นเวลา 6 เดือน การใช้เงินจากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากช่วยเหลือ 5,000 ล้านบาท จึงมีความเพียงพอในการช่วยเหลือ

ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การจัดประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม พ.ศ... เพื่อให้การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยถูกสานต่อไปยังหลายรัฐบาล เพราะมี พ.ร.บ.กำกับดูแลเหมือนกับโครงการบัตรสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรค และยังมีแผนการฝึกอบรมอาชีพ พัฒนาชาวบ้านให้ขยับฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้น มีระบบข้อมูลดูแลผู้มีรายได้น้อยชัดเจนมากขึ้นอย่างเป็นระบบ