ลีสซิ่งกสิกรไทย เผยครึ่งปีแรกมียอดสินเชื่อใหม่ 4.9 หมื่นล้าน ระบุช่วงที่เหลือของปีเร่งอัดแคมเปญใหม่ ขยายฐานผ่านสาขาธนาคาร-ดิจิทัล หวังดันยอดสินเชื่อใหม่ทั้งปีโตตามเป้า 9 หมื่น ล.
นายศาศวัต วีระปรีย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่าเปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกปี 2561 ว่า ลีสซิ่งกสิกรไทยมียอดปล่อยสินเชื่อรวม 49,177 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อใหม่เช่าซื้อ และลีสซิ่ง และสินเชื่อจำนำเล่มทะเบียน 19,987 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 7% และสินเชื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ (Dealer Floorplan) 29,190 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% ส่งผลให้มียอดสินเชื่อคงค้าง (Outstanding Loan) รวม 100,126 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 8% มีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 1.42% และมีผลกำไรจำนวน 683 ล้านบาท เติบโต 18.5% ขณะที่ภาพรวมธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถในครึ่งปีแรกมีการขยาย 12.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับไตรมาสที่เหลือของปีนี้ ลีสซิ่งกสิกรไทย จะผนึกกำลังกับผู้แทนจำหน่ายรถยนต์พันธมิตรในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าได้ตรงใจอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการเปิดแคมเปญใหม่สำหรับสินเชื่อรถใหม่ช่วงงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป ปลายปีนี้ พร้อมทั้งวางแผนเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยง เพื่อขยายฐานสินเชื่อคุณภาพดี อีกทั้งยังมุ่งเน้นการทำตลาดสินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทยอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีช่องทางการขายที่สาขาของธนาคารกสิกรไทยทั่วประเทศ และแพลตฟอร์มดิจิทัล จึงพร้อมที่จะให้บริการ รวมถึงรองรับการขยายตัวที่รวดเร็วของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ลูกค้าทำธุรกรรมทุกอย่างที่เกี่ยวกับสินเชื่อรถได้อย่างง่ายดาย และเมื่อผนวกรวมกับความสามารถในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าผ่านเทคโนโลยี Data Analytics ที่แม่นยำแล้ว จะสามารถเสนอสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ให้ลูกค้าที่มีความต้องการสินเชื่อได้อย่างตรงจุด
นายศาศวัต กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยทิศทางดังกล่าว ลีสซิ่งกสิกรไทยเชื่อมั่นว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ ประกอบด้วย สินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่ และสินเชื่อรถช่วยได้ 44,200 ล้านบาท และสินเชื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ 45,800 ล้านบาท มียอดปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ 90,000 ล้านบาท และมียอดสินเชื่อคงค้าง 105,500 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถทั้งปี 2561 คาดว่าตลาดจะมีการขยายตัวประมาณ 8.5%
สำหรับทิศทางในปี 2562 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศจะปรับเข้าสู่สภาพสมดุลที่ 940,000-970,000 คัน โดยปีหน้า ประเภทรถยนต์ที่จะเติบโตได้ดีอยู่ในกลุ่มอีโคคาร์ และรถยนต์อเนกประสงค์รูปแบบต่างๆ ส่งผลให้ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ปี 2562 ภาพรวมตลาดจะขยายตัวในระดับที่ชะลอลงด้วย เติบโตอยู่ที่ 4.5-6.5%
ด้านแนวคิดของกระทรวงการคลังที่จะเข้ามาจัดระเบียบผู้ให้บริการสินเชื่อประเภทรถช่วยได้ และกำหนดให้ต้องเป็นธุรกิจรับอนุญาตเท่านั้น เหมือนการให้บริการทางการเงินประเภทอื่นๆ คาดว่าไม่มีผลต่อภาพรวมธุรกิจมากนัก เนื่องจากผู้ประกอบการรายหลักในธุรกิจนี้เป็นธนาคาร ขณะเดียวกัน คาดว่า มาตรการนี้จะช่วยให้ลูกค้ารายย่อย โดยเฉพาะในพื้นที่ภูมิภาคมีทางเลือกในการใช้บริการทางการเงินในระบบที่ได้รับการดูแลจากหน่วยงานภาครัฐ และมีความเป็นธรรมยิ่งขึ้น