หุ้นไทยปิดบวก 2.02 จุด ดัชนีเคลื่อนไหวกรอบแคบจากสงครามการค้าฯ ยังกดดัน นักลงทุนเล่นเก็งกำไรหุ้นรายตัว แนวโน้มพรุ่งนี้ตลาดน่าจะไปไหนได้ไม่ไกล
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล. ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (10 ก.ย.) เคลื่อนไหวในกรอบแคบ เป็นไปตามปัจจัยลบในต่างประเทศ โดยเฉพาะความกังวลต่อสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ขณะที่ตลาดหุ้นบ้านเรายังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา
ส่วนการที่ดัชนีปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงบ่ายน่าจะมาจากการเก็งกำไรในหุ้นรายตัว จากปัจจัยบวกเฉพาะตัว อย่างหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ก็มีการเก็งปัจจัยผลดีจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง และหุ้น DTAC ที่ปรับตัวลงมาค่อนข้างมากแล้ว ซึ่งนักลงทุนคาดหวังว่า DTAC อาจได้รับการเยียวยาคลื่น 850 MHz ก่อนสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในวันที่ 15 ก.ย.นี้
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลง โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน ซึ่งเป็นประเทศที่มึความเสี่ยง หากสหรัฐฯ มีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดที่ระดับ 1,691.51 จุด เพิ่มขึ้น 2.02 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.12% มูลค่าการซื้อขาย 32,991.37 ล้านบาท ด้านประเภทนักลงทุน สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 635.99 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 289.96 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 187.90 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,113.85 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ (11 ก.ย.) นายกิจพณ กล่าวว่า ตลาดฯ น่าจะไปไหนได้ไม่ไกล พร้อมให้แนวรับ 1,680 จุด ส่วนแนวต้าน 1,700 จุด โดยแนะจับตาการประกาศรายชื่อกลุ่มสินค้าที่สหรัฐฯ เตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มเติม ซึ่งประเทศไทยอาจได้รับประโยชน์จากปัจจัยดังกล่าว และการผ่อนคลายทางการเมือง หรือการปลดล็อกกิจกรรมพรรคการเมืองในสัปดาห์นี้