โฟรวิงส์ กรุ๊ป รับอานิสงส์ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ งัดแลนด์แบงก์เกือบ 80 ไร่ พัฒนาโครงการมิกซ์ยูส บ้าน โรงเรียนนานาชาติ โรงแรม เดอะ พาร์ค คอมมมูนิตี มอลล์ ล่าสุด เปิดขายบ้านหรูเดอะพาร์ค อเวนิว ไพรเวท ราคาเริ่มต้น 27 ล้านบาท
นายบุญฤทธิ์ จิระพจชพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บอสตัน เอเวนิว (1987) จำกัด บริษัทในเครือโฟรวิงส์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ภายหลังที่มีการตัดถนนกรุงเทพกรีฑาใหม่ บริษัทได้เล็งเห็นศักยภาพของทำเลดังกล่าว จึงได้นำแลนด์แบงก์ในย่านดังกล่าวออกมาพัฒนา ซึ่งเดิมเป็นที่ดินแปลงใหญ่เนื้อที่รวมกว่า 80 ไร่ แต่ถูกถนนตัดผ่านทำให้ที่ดินแยกออกเป็น 2 ฝั่งถนนแปลง 20 ไร่ และ 50 ไร่
จากอานิสงส์ดังกล่าว บริษัทจึงได้นำที่ดินขนาด 20 ไร่ ซึ่งติดสนามกอล์ฟกรุงเทพกรีฑา มาพัฒนาเป็นโครงการรูปแบบมิกซ์ยูส ประกอบด้วย บ้านหรู และคอมมูนิตี มอลล์ มูลค่าโครงการรวม 1,500 ล้านบาท โดยเริ่มพัฒนาคอมมูนิตีมอลล์ก่อนภายใต้ชื่อ THE PARK พื้นที่ 6,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่เช่า 4,000 ตร.ม. ในจำนวนนี้เป็นร้านค้า ร้านอาหาร เช่น ร้านกาแฟ Starbuck, The Pizza Company, Ramen KouraKuen, TOPS DAILY รวมไปถึง Lifestyle Shop ต่างๆ โดยใช้งบลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท เปิดให้บริการเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้การตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า และผู้ที่อาศัยในรัศมี 3-5 กิโลเมตร เนื่องจากทำเลที่ตั้งโครงการฯ อยู่ใกล้สถานศึกษา สนามกอล์ฟ ออฟฟิศ และหมู่บ้านเป็นจำนวนมาก ทำให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากกว่า 50,000 คนต่อเดือน
นอกจากนี้ ทางโครงการฯ ยังมี W FITNESS (ดับเบิ้ลยู ฟิตเนส) ที่เปิดให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยเป็นสปอร์ต คอมเพล็กซ์ ขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 2,300 ตารางเมตร ตั้งอยู่ภายใน THE PARK คอมมูนิตีมอลล์ เพื่อรองรับสมาชิกในโครงการฯ และผู้อาศัยในย่านใกล้เคียง (ลูกบ้านได้สิทธิเป็น Member 3 ปีแรกฟรี) โดยมีอุปกรณ์ออกกำลังกายที่คัดสรรมาตรฐานระดับ Life Fitness สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือยาวกว่า 30 เมตร แบบ Infinity Edge Pool พร้อมสัมผัสทัศนียภาพสีเขียวจากสนามกอล์ฟกรุงเทพกรีฑากว่า 400 ไร่ ในมุมมองแบบ Panoramic View
ทั้งนี้ ภายหลังเปิดให้บริการ เดอะ พาร์ค ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโครงการ “THE PARK AVENUE PRIVATE” (เดอะ พาร์ค เอเวนิว ไพรเวท) ติด The Park บนเนื้อที่โครงการ 13 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวขนาด 3-4 ชั้น 4-5 ห้องนอน จำนวน 36 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 27 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด The Modern Luxury Tropical Style ด้วยรูปแบบ Modernized Living ที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและการคัดสรรวัสดุที่เหมาะสมเพื่อการใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้น ตอบรับการใช้ชีวิตแบบ Easy Life ของครอบครัวสมัยใหม่ ซึ่งออกแบบโดย 760i Architect & Consultant Co., Ltd. ที่เน้นความสงบส่วนตัว
โครงการเดอะ พาร์ค เอเวนิว ไพรเวท สามารถเข้าออกได้ 2 เส้นทาง ทั้งถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า และถนนกรุงเทพกรีฑา ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของสมาชิกทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ซึ่งจะไม่จำกัดการใช้ชีวิตเฉพาะที่ชั้นล่างของบ้าน เพราะโครงการมีระบบ Home Lift (จาก Mitsubishi) ไว้สำหรับบ้าน Type M และ Type L โดยมีพื้นที่โครงการรวม 10 ไร่ 3 งาน 74 ตารางวา ประกอบด้วยบ้าน 3 ขนาด คือ
1.แบบบ้าน SNOWBERRY (Type S มี 21 หลัง) ที่ดินเริ่มต้น 64.7-74.4 ตารางวา มี 3 ชั้น เนื้อที่ใช้สอย 354 ตารางเมตร มี 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
2.แบบบ้าน MULBERRY (Type M มี 11 หลัง) ที่ดินเริ่มต้น 78.9-97.1 ตารางวา มี 3 ชั้น เนื้อที่ใช้สอย 439 ตารางเมตร มี 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ มีลิฟต์
3.แบบบ้าน LAUREL (Type L มี 4 หลัง) ที่ดินเริ่มต้น 102.6-141.2 ตารางวา มี 4 ชั้น เนื้อที่ใช้สอย 680 ตารางเมตร มี 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน มีสระว่ายน้ำที่ชั้น 4 มีลิฟต์
สำหรับความคืบหน้าโครงการอยู่ระหว่างการตกแต่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้ทุกหลังพร้อมกันในปลายปี 2561 ปัจจุบัน มีบ้านที่ขายได้แล้วรวม 15 หลัง จากทั้งหมด 36 หลัง โดยให้บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ เอเจนซี่ จำกัด เป็นผู้บริหารการขายโครงการ
“หลังจากที่บริษัทเริ่มก่อสร้างบ้านตัวอย่างได้มีลูกค้าทั้งที่มีใช้บริการในเดอะ พาร์ค และลูกค้าจากสนามกล์อฟกรุงเทพกรีฑา เข้ามาสอบถามรายละเอียด และจองซื้อโครงการ ปัจจุบันขายได้ไปแล้ว 15 ยูนิต โดยบริษัทเตรียมปรับราคาเฉลี่ยอีก 5% ในเดือน ก.ย.นี้ คาดสิ้นปีจะปิดการขายได้ 80% ทั้งโครงการจะแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้ทุกหลังพร้อมกันในปลายปี 2561 และยังมีที่ดินเหลืออีกประมาณ 7 ไร่ ที่เตรียมจะพัฒนาในเฟสถัดไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบโครงการ” นายบุญฤทธิ์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีแผนพัฒนาโครงการในพื้นที่ 50 ไร่ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงเรียนนานาชาติจากอังกฤษ ซึ่งจะได้ความชัดเจนในปีนี้ หากบรรลุข้อตกลงจะมีการจัดสรรที่ดินให้ทางโรงแรมพัฒนาราว 20 ไร่ ส่วนอีก 30 ไร่ บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการอสังหาฯเพื่อรองรับ โดยแบ่งเป็น 2 โครงการ มูลค่าการลงทุนราว 1,000 ล้านบาทต่อโครงการ
ขณะที่บริษัทยังมีที่ดินย่านพระราม 9 อีกกว่า 50 ไร่ ซึ่งที่ดินทั้ง 2 แปลง ทางบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อมาพัฒนาโครงการร่วมกัน อีกทั้งยังมีที่ดินที่จังหวัดเชียงใหม่ และเชียงราย อีกราวกว่า 100 ไร่ ซึ่งจากนี้ หากเป็นพื้นที่แปลงใหญ่บริษัทจะหาพันธมิตรร่วมพัฒนาโครงการโดยรูปแบบ คือ ให้เช่าที่ดินระยะยาว หรือขายที่ดินเพื่อพัฒนา อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเน้นการสร้างรายได้จากอสังหาฯ เพื่อเช่าราว 80% และอสังหาฯ เพื่อขายราว 20% โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้ธุรกิจเครือโฟรวิงส์กรุ๊ปที่ 2,500 ล้านบาท