ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ทฯ แตกไลน์ธุรกิจไม่หยุด ล่าสุด ซื้อกิจการ “NML” ผู้ให้บริการด้าน Logistics ของ “เนชั่นกรุ๊ป” ด้านผู้บริหารลั่นนำมาต่อยอดพัฒนาแพลตฟอร์มลอจิสติกส์ และฟินเทค หวังขยายฐานลูกค้าและรายได้ให้เติบโตมากขึ้น มั่นใจครึ่งปีหลังแนวโน้มธุรกิจดีต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ปี 61 แตะ 500 ล้านบาท
นายปกรณ์ อาภาพันธุ์ ประธานกรรมการ บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SPPT เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2561 มีมติอนุมัติให้บริษัท เอสพีพี อินเทลลิเจนซ์ จำกัด (ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100) เข้าซื้อกิจการบริษัท เอ็น เอ็ม แอล จำกัด (NML) จำนวน 5,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 9 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างรายได้เพิ่มเติม และนำมาต่อยอดธุรกิจของบริษัทฯ
สำหรับ NML เป็นบริษัทย่อยของบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (NMG) ดำเนินธุรกิจขนส่ง (Logistic) ประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ให้แก่ลูกค้าในเครือของ NMG รวมถึงขนส่งสินค้าให้แก่ลูกค้ารายอื่นๆ
“ปัจจุบัน NML เป็นผู้ดูแลงานด้าน Logistics ของกลุ่มเนชั่นกรุ๊ปทั้งหมด นอกจากนี้ ยังให้บริการด้าน Logistics กับลูกค้าภายนอกรวมกว่า 50 บริษัท และมีแนวโน้มการเติบโตในด้านรายได้อย่างต่อเนื่อง” ดร.ปกรณ์ กล่าว
นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า การที่ SPPT ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการของ NML เพื่อเป็นการสร้างรายได้เพิ่มเติม และนำมาต่อยอดธุรกิจ หลังจากบริษัทฯ ได้เข้าซื้อบริษัท ไซแมท ซอฟท์ จำกัด (SSOFT) ผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องต่อระบบลอจิสติกส์ และบริหารการจัดส่งสินค้า ภายใต้ชื่อ Sky Frog โดยจากนี้ไปบริษัทฯ เดินหน้าพัฒนาเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในการพัฒนาซอฟต์แวร์ แพลตฟอร์มด้านลอจิสติกส์ และฟินเทค ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถช่วยสนับสนุนการขยายฐานรายได้เพิ่มขึ้น เพราะนอกจากบริษัทฯ จะมีลูกค้าประจำของ NML แล้ว ยังมีลูกค้าใหม่เพิ่มจากการต่อยอดพัฒนาระบบใหม่ในอนาคต
SSPT ได้ขยายการลงทุน โดยได้จัดตั้ง 2 บริษัทย่อย คือ 1.บริษัท เอสพีพี อินเทลลิเจนซ์ ดำเนินธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อให้บริการแพลตฟอร์มด้านลอจิสติกส์ รวมทั้งเป็นตัวกลางในการบริหารจัดการระบบลอจิสติกส์ขนาดใหญ่ให้แก่ผู้ประกอบการด้านขนส่ง และ 2.บริษัท เอสพีพี ฟินเทค จำกัด ดำเนินธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อให้บริการแพลตฟอร์มด้าน FinTech สำหรับให้บริการทางการเงินครบวงจร รองรับความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลในอนาคต
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการช่วงครึ่งหลัง น่าจะมีทิศทางที่ดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากบริษัท เทอร์ราไบท์ เน็ท โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (TERA) ซึ่ง SPPT เข้าซื้อกิจการเมื่อปลายปี 2560 ได้ขยายไลน์ธุรกิจจากการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ มาสู่ธุรกิจวางระบบ และให้บริการด้านไอที ซึ่งจะเริ่มสร้างรายได้ให้แก่บริษัทฯ และแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มั่นใจได้ว่า ภาพรวมธุรกิจในปีนี้จะเป็นปีที่บริษัทฯ ฟื้นตัว โดยคาดว่าผลประกอบการจะพลิกเป็นบวกได้อย่างแน่นอน โดยตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2561 แตะ 500 ล้านบาท