หุ้นคลายกังวลสงครามการค้า ขณะที่แรงขายต่างชาติชะลอตัวลง

หุ้นปิดเช้าบวก 4.08 จุด ตามตลาดในต่างประเทศ คลายกังวลสงครามการค้า หลังจากสหรัฐฯ และเม็กซิโกบรรลุข้อตกลง ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าหนุนค่าเงิน Emerging Market แข็งค่า ด้านแรงขายต่างชาติชะลอลงเป็นปัจจัยหนุนภาพรวมการลงทุนด้วย อย่างไรก็ตาม แม้มีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง แต่คาดดัชนีจะยังยืนบวกได้ต่อในภาคบ่าย ให้แนวรับ 1,717 จุด แนวต้าน 1,729 จุด

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าแกว่งตัวขึ้นตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ตอบรับข่าวสหรัฐฯ และเม็กซิโกบรรลุข้อตกลงการค้าทวิภาคีระหว่างกัน ทำให้ตลาดคาดหวังว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน หรือสหรัฐฯ กับยุโรป ก็น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงทางการค้าโลก รวมถึงการที่ธนาคารกลางจีนส่งสัญญาณจะปรับนโยบายค่าเงิน ซึ่งจะช่วยทำให้ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีน และสหรัฐฯ ลดลงด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ กล่าวหาว่า จีนจงใจทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง

นอกจากนี้ การที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า และหนุนให้สกุลเงินในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) แข็งค่าขึ้น รวมถึงตลาดหุ้น Emerging Market ก็ขยับขึ้นกันถ้วนหน้า ตลอดจนการที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่ายังส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ขยับขึ้น หนุนให้มีแรงซื้อในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์อย่างหุ้นในกลุ่ม บมจ.ปตท. (PTT) ที่ปรับตัวขึ้นมาในวันนี้

ขณะเดียวกัน แรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ชะลอตัวลง และนักลงทุนสถาบันในประเทศที่ถือเงินสดค่อนข้างมากก่อนหน้านี้ได้เข้ามาซื้อหุ้นต่อเนื่อง ก็จะเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยผลักดันตลาดได้อยู่ ส่วนความคืบหน้าทางการเมืองในประเทศที่จะเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมืองได้นั้น มองว่าไม่น่าเป็นประเด็นต่อตลาดมากนัก เพราะตลาดยังรอดูความชัดเจนว่าจะมีการเลือกตั้งภายในกำหนดเบื้องต้นช่วงเดือน ก.พ. หรือไม่

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,721.32 จุด เพิ่มขึ้น 4.08 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.24% มูลค่าการซื้อขาย 27,922.15 ล้านบาท

ส่วนแนวโน้มการซื้อขายช่วงบ่าย คาดว่า ตลาดจะยังยืนอยู่ในแดนบวกได้ แม้จะเริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาพอสมควรในช่วงเช้า โดยดัชนีพยายามที่จะยืนเหนือระดับ 1,720 จุด ซึ่งหากยืนได้ดัชนีจะมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,729 จุด และแนวรับที่ 1,717 จุด