บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) เสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ กำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ 5.85% ต่อปีใน 5 ปีแรก หลังจากนั้น จะมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยส่วนเพิ่ม จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน จองซื้อขั้นต่ำ 1 หมื่นบาท สำหรับผู้ลงทุนสถาบัน และ 1 แสนบาท สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป ผู้ที่สนใจสามารถจองซื้อได้ที่ธนาคารกรุงเทพ กรุงไทย กสิกรไทย และไทยพาณิชย์ โดยคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 24-27 ก.ย.นี้ โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้รับจากการออกและเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ในครั้งนี้ไปใช้ชำระคืนหนี้เดิมของบริษัท และ/หรือใช้ในการลงทุน และ/หรือใช้ในการดำเนินธุรกิจของบริษัท
ทั้งนี้ บริษัทดำเนินธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องต่อธุรกิจโรงแรม ซึ่งรวมถึงโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โครงการพักผ่อนแบบปันส่วนเวลา ให้เช่าศูนย์การค้า ธุรกิจบันเทิง ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจจัดจำหน่ายและรับจ้างผลิตสินค้าทั้งในประเทศไทย และอีก 39 ประเทศ เช่น โรงแรมภายใต้แบรนด์ “อนันตรา” “อวานี” “ทิโวลี” “โอ๊คส์” “โฟร์ซีซั่น” “เซ็นต์รีจีส” เป็นต้น อีกทั้งร้านอาหารภายใต้แบรนด์ “เดอะ พิซซ่า คอมปานี” “สเวนเซ่นส์” “เดอะ คอฟฟี่ คลับ” “แดรี่ควีน” “ซิซเล่อร์” “เบอร์เกอร์คิง” เป็นต้น รวมถึงธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ “ESPRIT” “BOSSINI” “Charles and Keith” “Anello” “OVS” เป็นต้น นอกจากนี้ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เข้าลงทุนใน เอ็นเอ็ช โฮเทล กรุ๊ป ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมในยุโรป
บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด และมีสิทธิเลื่อนการชำระดอกเบี้ยโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2561 โดยผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิที่จะไถ่ถอนหุ้นกู้ดังกล่าวได้ก่อนกำหนด หลังครบอายุ 5 ปี หรือตามเงื่อนไขอื่นๆ ที่กำหนดไว้ในร่างหนังสือชี้ชวน โดยคาดว่าจะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนทั่วไป ระหว่างวันที่ 24-27 ก.ย.2561 และได้ให้ความไว้วางใจในการแต่งตั้งผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ กรุงไทย กสิกรไทย และไทยพาณิชย์ ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BBB+ โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2561
ด้านผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2560 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 57,569 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 5,415 ล้านบาท และผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2561 อยู่ที่ 30,905 ล้านบาท เติบโต 8.92% YOY และผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,985 ล้านบาท เติบโต 7.69% YOY และอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทอยู่ที่ระดับ A แนวโน้ม (Stable) โดยบริษัท ทริส เรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2561
ทั้งนี้ บริษัทดำเนินธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องต่อธุรกิจโรงแรม ซึ่งรวมถึงโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โครงการพักผ่อนแบบปันส่วนเวลา ให้เช่าศูนย์การค้า ธุรกิจบันเทิง ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจจัดจำหน่ายและรับจ้างผลิตสินค้าทั้งในประเทศไทย และอีก 39 ประเทศ เช่น โรงแรมภายใต้แบรนด์ “อนันตรา” “อวานี” “ทิโวลี” “โอ๊คส์” “โฟร์ซีซั่น” “เซ็นต์รีจีส” เป็นต้น อีกทั้งร้านอาหารภายใต้แบรนด์ “เดอะ พิซซ่า คอมปานี” “สเวนเซ่นส์” “เดอะ คอฟฟี่ คลับ” “แดรี่ควีน” “ซิซเล่อร์” “เบอร์เกอร์คิง” เป็นต้น รวมถึงธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ “ESPRIT” “BOSSINI” “Charles and Keith” “Anello” “OVS” เป็นต้น นอกจากนี้ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เข้าลงทุนใน เอ็นเอ็ช โฮเทล กรุ๊ป ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมในยุโรป
บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด และมีสิทธิเลื่อนการชำระดอกเบี้ยโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2561 โดยผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิที่จะไถ่ถอนหุ้นกู้ดังกล่าวได้ก่อนกำหนด หลังครบอายุ 5 ปี หรือตามเงื่อนไขอื่นๆ ที่กำหนดไว้ในร่างหนังสือชี้ชวน โดยคาดว่าจะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนทั่วไป ระหว่างวันที่ 24-27 ก.ย.2561 และได้ให้ความไว้วางใจในการแต่งตั้งผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ กรุงไทย กสิกรไทย และไทยพาณิชย์ ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BBB+ โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2561
ด้านผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2560 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 57,569 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 5,415 ล้านบาท และผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2561 อยู่ที่ 30,905 ล้านบาท เติบโต 8.92% YOY และผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,985 ล้านบาท เติบโต 7.69% YOY และอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทอยู่ที่ระดับ A แนวโน้ม (Stable) โดยบริษัท ทริส เรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2561