xs
xsm
sm
md
lg

2 อสังหาฯ รายเล็กตั้งบริษัทร่วมทุนสู้รายใหญ่ ชูกลยุทธ์ราคา-ขายยกตึกต่างชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บริษัทอสังหาฯ รายเล็กปรับกลยุทธ์รับมือการแข่งขันรุนแรง 2 บริษัทอสังหาฯ “ภัทรา เอสเตท-ชนันธร ดีเวลอปเม้นท์” ผนึกกำลังตั้งบริษัทร่วมทุนผุดโปรเจกต์คอนโดฯ โลว์ไรส์ “ไฮป์ สาทร-ธนบุรี” มูลค่า 2,000 ล้านบาท งัดเรื่องราคาจูงใจลูกค้า เหตุซื้อที่ดินได้ราคาเหมาะสม ใช้รับเหมาในเครือก่อสร้าง หนุนต้นทุนต่ำลง 20% กัน 2 ตึกขายต่างชาติ มั่นใจทั้งโครงการปิดปีนี้

นายพรชัย กฤษฎาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภัทรนันท์ แอสเซท จำกัด ผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ย่านกรุงเทพฯ มานานกว่า 30 ปี กล่าวถึงการปรับตัวของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางและเล็ก ว่า ปัจจุบันการแข่งขันรุนแรง ขณะที่เราจะได้เห็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในไทยได้มีการ่วมทุนกับพันธมิตรจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ทำให้บริษัทอสังหาฯ รายเล็กต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ โดยบริษัทภัทรนันทท์ฯ เกิดจากความร่วมมือระหว่างธุรกิจของครอบครัว คือ บริษัท ภัทรา เอสเตท จำกัด ถือหุ้น 51% กับบริษัท ชนันธร ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด ถือหุ้น 49% ตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ขึ้นมา ด้วยทุนจดทะเบียนชำระเต็ม 300 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการ “ไฮป์ สาทร-ธนบุรี” ประเภทคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์แห่งแรก บนถนนเจริญนคร 22 ด้วยมูลค่าโครงการที่สูงถึง 2,000 ล้านบาท

ด้วยลักษณะการทำธุรกิจอสังหาฯที่คล้ายๆ กันมากว่า 30 ปี มีบริษัทรับเหมาก่อสร้างเหมือนกัน ทำให้มีการแชร์ข้อมูลระหว่างกัน อีกทั้งทั้ง 2 บริษัท มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่ย่านฝั่งธนบุรี ดังนั้น ทางผู้ใหญ่จึงได้มีแนวคิดในการร่วมลงทุนเป็นครั้งแรกในการพัฒนาโครงการคอนโดฯ แห่งแรกขึ้นมา ซึ่งเราเน้นในทำเลที่เราคุ้นเคย ทำตลาดมานาน ลูกค้ารับรู้ชื่อเสียงของผู้ถือหุ้นมานาน โดยเฉพาะพื้นที่ธนบุรี บริเวณสะพานสาทร เจริญนคร คลองสาน พื้นที่ในย่านนี้มีอภิมหาโปรเจกต์ขนาดใหญ่เกิดขึ้น ทั้งศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โรงแรมระดับหกดาว ในโครงการไอคอน สยาม และโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง ซึ่งมีเส้นทางที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี รวมถึงเส้นทางเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ และสายสีแดง ที่ได้เริ่มก่อสร้างแล้วในปีนี้”

เช่นเดียวกับพฤติกรรมผู้อยู่ในทำเลย่านนี้เริ่มปรับเปลี่ยนสู่สังคมคนรุ่นใหม่ และมีการปรับรูปแบบวิถีชีวิตแบบคนเมืองอย่างชัดเจน ซึ่งคาดว่าจะเป็นพื้นที่ที่กลุ่มคนรุ่นใหม่มองหาที่อยู่อาศัยในทำเลใกล้ศูนย์กลางธุรกิจ (ซีบีดี) โดยกลุ่มเป้าหมายของโครงการจะเป็นคนรุ่นใหม่อายุ 20-40 ปี รายได้ประมาณ 30,000 ต่อเดือน

น.ส.ศราริน เรืองปัญญาวุฒิ กรรมการบริหาร บริษัท ภัทรนันท์ (จากบริษัท ชนันธรฯ) กล่าวว่า ในพื้นที่ฝั่งธนบุรี ตลาดคอนโดฯ โลว์ไรส์ในระดับราคาของโครงการไฮป์ สาทร-ธนบุรี ไม่มีมากในตลาด ส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดฯ ระดับลักชัวรี ดังนั้น เรื่องราคาจะถูกนำมาใช้ในการทำโครงการ ซึ่งราคาขายเฉลี่ยของโครงการจะอยู่ที่ 77,000 บาทต่อ ตร.ม. ส่วนราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 70,000 บาทต่อ ตร.ม. ขณะที่ราคาขายของโครงการอื่นย่านฝั่งธนบุรี เจริญนคร และโซนวงเวียนใหญ่ จะประมาณ 110,000 บาทต่อ ตร.ม.

ราคานี้ถ้าจะซื้อกันจริงๆ ต้องไปแถวชานเมือง ซึ่งสาเหตุที่ทำราคาโครงการได้ มีทั้งเรื่องของการจัดหาที่ดินแปลงใหญ่ เราได้แปลงนี้มา 2 ปี ในราคา 1.3 แสนบาทต่อตารางวา แต่ปัจจุบัน ฝั่งไม่ติดแม่น้ำ ราคากว่า 2 แสนบาทต่อตารางวาแล้ว มีบริษัทรับเหมาในเครือเข้ามาดำเนินการก่อสร้าง และด้วยที่เราเป็นบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ เราต้องเสนอเงื่อนไขที่ดีกว่า ราคาจึงเป็นสิ่งสำคัญ และเราจะโฟกัสโครงการแรกก่อน เรามองว่า โปรดักต์แบบนี้จะสามารถต่อยอดได้ และหากต้องลงทุนแปลงใหม่จะเลือกโลเกชันเป็นหลัก”

นายพรชัย กล่าวเสริมว่า การที่มีบริษัทรับเหมาก่อสร้างในกลุ่มเข้ามาดำเนินการ ช่วยให้ต้นทุนค่าก่อสร้างลดลงไปประมาณ 20% มีส่วนต่อราคาขายโครงการ โดยโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ 7 ไร่ จำนวน 5 อาคาร จำนวน 914 ยูนิต เฟสแรกจะเปิดขายในอาคาร A B และ C เปิดจองในวันที่ 1-2 ก.ย.61 และหลังพรีเซลแล้ว จะปรับราคาขึ้น 7-10% นอกจากนี้ ได้มีการขยายฐานลูกค้าต่างชาติ โดยมอบหมายให้บริษัทนายหน้าค้าอสังหาฯ (เอเยนต์) มากกว่า 2 ราย ดำเนินการนำเสนอลูกค้า ซึ่งน่าจะรวมถึงลูกค้าจากประเทศจีนที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยในประเทศไทย ทำให้มั่นใจว่าจะปิดการขายทั้งโครงการภายในสิ้นปีนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น