บมจ. อาร์เอส โชว์ผลงานไตรมาส 2/61 กำไรสุทธิ 172 ล้านบาท เพิ่มขึ้นว่า 230% หลังประสบความสำเร็จจากการขยายธุรกิจรกิจเชิงพาณิชย์ยุคใหม่อย่างเต็มตัว พร้อมประกาศจ่ายปันผลหุ้นละ 25 สตางค์
นายดามพ์ นานา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 มีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นทั้งรายได้ และกำไร โดยมีรายได้กว่า 955 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12% กำไรสุทธิ 172 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 230% ขณะที่งวดครึ่งปีแรกมีรายได้รวม 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% กำไรสุทธิรวม 274 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 177% ทำให้เชื่อมั่นว่า ผลประกอบการทั้งปี 2561 จะทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ ธุรกิจพาณิชย์และอื่นๆ หรือ Multi-platform Commerce (MPC) ซึ่งทำรายได้โดดเด่นต่อเนื่อง ในไตรมาส 2 นี้ มีรายได้มากกว่า 504 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นผลมาจากการคัดสรรสินค้าที่ได้คุณภาพ ความคุ้มค่า และบริการดีเยี่ยม ทั้งกลุ่มเฮลท์แอนด์บิวตี (Health and Beauty) และกลุ่มโฮมแอนไลฟ์สไตล์ (Home and Lifestyle) ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องใช้ในครัวเรือน, เครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับ ที่ทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้ตอบโจทย์เจาะกลุ่มคนยุคใหม่ทุกมิติของชีวิตที่ใส่ใจดู แลคุณภาพชีวิต สุขภาพร่างกาย และความสะดวกสบาย รวมถึงบริการยกระดับคุณภาพชีวิต หนุนด้วยธุรกิจสื่ออย่าง “ช่อง 8” ที่มีคอนเทนต์ที่แข็งแรง และมีเรตติ้งอยู่ในกลุ่มผู้นำของประเทศ
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังดีขึ้น จากปัจจัยบวกทั้งจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจที่ช่วยกระตุ้นกำลังการ ซื้อของผู้บริโภค และการวางกลยุทธ์เชิงรุกธุรกิจใหม่ MPC ได้รุกจับมือกับคู่ค้าหรือพันธมิตร (Strategic Partner) เพิ่มสินค้าและบริการใหม่ๆ เพื่อผนึกพลัง และต่อยอดธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดแบบทางลัด และขยายตัวได้รวดเร็ว ช่วยสร้างความแข็งแกร่ง และเร่งการเติบโตทั้งรายได้และกำไรอย่างยั่งยืน รวมทั้งเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ (SKU) ทั้งกลุ่มสกินแคร์ แฮร์แคร์ และอาหารเสริม สินค้าประเภทใหม่ๆ ของกลุ่มโฮมแอนไลฟ์สไตล์ รวมถึงบริการทางด้านการตลาดต่างๆ ทั้งการประกันภัย และบริการอื่นๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลาย และโอกาสทางการขายมากขึ้น อีกทั้งการบริหารข้อมูลลูกค้าที่ เติบโตขึ้นรวมกันทุกช่องทางเกือบ 1 ล้านรายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และการเพิ่มทีมคอลเซ็นเตอร์ทั้งในแง่จำนวนและประสิทธิภาพในการปิดการขาย โดยมีพันธมิตรหลายรายสนใจและเจรจาขอนำสินค้าคุณภาพมาขายผ่านช่องทาง Telesales ของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ “ช่อง 8” ได้ทุ่มเติมคอนเทนต์ใหม่ครบทุกรส ไม่ว่าจะเป็น ซีรีส์อินเดีย ละครไทย ข่าว มวย เพื่อตอกย้ำคอนเซ็ปต์ “เข้มทุกเรื่องราว สุดทุกอารมณ์” ถือเป็นการเปิดเกมรุกได้ตรงกับจังหวะ และโอกาสช่วงเม็ดเงินโฆษณากลับมาพอดี จึงเชื่อมั่นผังใหม่ถูกใจผู้ชมทั้งประเทศดันเรตติ้งเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้รับเชิญจากบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่ง เพื่อพบปะนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ โดยบริษัทจะเดินสายนำเสนอข้อมูลที่ประสบความสำเร็จจากการพัฒนาสู่การเป็นตลาดค้าปลีกรูปแบบใหม่ที่ใช้โมเดล MPC เชื่อมั่นว่าจะมีกระแสตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากนักลงทุนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา และคาดว่าหลังการเดินสายโรดโชว์ จะได้เห็นสัดส่วนนักลงทุนสถาบันระยะยาวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับราคาหุ้น และเป็นการส่งสัญญาณอันดีอันเป็นการการันตีถึงคุณภาพของบริษัทฯ
“จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปี 2561 ในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น เป็นเงินทั้งสิ้น 242 ล้านบาท เป็นการส่งสัญญาณที่ดีสะท้อนสภาพคล่อง และมีศักยภาพทางการเงินของบริษัท” นายดามพ์ กล่าว