หุ้นไทยปิดลบ 1.62 จุด ลดช่วงลบลงจากภาคเช้า รับแรงหนุนกลุ่มแบงก์ หลังเลื่อนบังคับใช้ IFRS9 ทำให้มีแรงเก็งกำไรหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่เข้ามา แม้ว่าโดยพื้นฐานแบงก์ส่วนใหญ่ตั้งสำรองฯ ไว้ค่อนข้างมากแล้ว แต่ถือเป็น Sentiment เชิงบวก
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (17 ก.ค.) แกว่งตัวในกรอบ โดยช่วงเช้าได้รับ Sentiment ลบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง โดยเฉพาะหุ้น PTTEP ปรับตัวลงแรงพอควร แต่ช่วงบ่ายดัชนีฯ ลดช่วงลบลงจากแรงซื้อหุ้นในกลุ่มแบงก์ หนุน ภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) ได้เลื่อนการใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS9 ออกไป 1 ปี ทำให้มีแรงเก็งกำไรหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่เข้ามา แม้ว่าโดยพื้นฐานแบงก์ส่วนใหญ่ตั้งสำรองฯ ไว้ค่อนข้างมากแล้ว ทำให้การเลื่อน 1 ปี ไม่ได้มีผลต่อกำไรมากนัก เป็นแค่ Sentiment บวกเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ที่จะออกมาหลายตัว
ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงาน และท่องเที่ยว วันนี้เป็นตัวกดดันตลาดฯ ในวันนี้ โดยเฉพาะหุ้น AOT ที่ปรับตัวลงอย่างเด่นชัด จากภาพเชิงลบที่กดดันไม่ว่าจะเรื่องปัญหาเรือล่มที่ภูเก็ต ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวจีนยกเลิกการเดินทางมาไทย และ AOT ต่อไปก็จะต้องใช้เงินในการลงทุนมากด้วย
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ เช่นเดียวกับตลาดในยุโรป ที่เทรดบ่ายนี้ เป็นลักษณะของการแกว่งแคบ เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่เข้ามา
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดที่ระดับ 1,626.07 จุด ลดลง 1.62 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.10% มูลค่าการซื้อขาย 47,970.32 ล้านบาท ด้านประเภทนักลงทุน สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 2,217.92 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 874.93 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 12.18 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,330.81 ล้านบาท
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (18 ก.ค.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯ คงจะแกว่งไซด์เวย์ไปก่อนในช่วงรอลุ้นผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ และช่วงสั้นวอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมก็หดลงไปด้วย