xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นพุ่ง 1,900 จุด...ถ้ามีเลือกตั้ง / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บริษัทหลักทรัพย์ ซี แอล เอส เอ (ประเทศไทย) จำกัด ออกมาทำนายแนวโน้มตลาดหุ้นในช่วงสิ้นปี ระบุว่า ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์จะพุ่งทะยานขึ้นไปที่ระดับ 1,900 จุด ภายใต้สมมุติฐานว่า จะต้องกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนในปีหน้า




การประเมินดัชนีหุ้นที่ระดับ 1,900 จุด ถ้าพูดกันในช่วงต้นปี คงไม่มีใครตื่นเต้น เพราะโบรกเกอร์จำนวนไม่น้อยที่ประเมินทำนองเดียวกัน และบางโบรกเกอร์ที่มองโลกสวย คาดการณ์ไปถึงระดับ 2,000 จุดด้วยซ้ำ


แต่ปัจจุบันแทบไม่เหลือโบรกเกอร์ใดที่มองตลาดหุ้นปลายปีนี้สดใส นักวิเคราะห์น้อยคนที่ประเมินดัชนี ฯ จะวิ่งไปไกลถึง 1,900 จุด เพราะสถานการณ์ลงทุนเปลี่ยนไป มีข่าวร้ายรอบด้าน มีปัจจัยลบกดดัน จนนักลงทุนไม่มั่นใจแนวโน้มตลาดหุ้น

สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เพิ่งสรุปผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์และผู้จัดการกองทุนรวม 29 แห่ง เกี่ยวกับเป้าหมายดัชนีราคาหุ้น ตลาดหลักทรัพย์สิ้นปี 2561 ซึ่งส่วนใหญ่ประเมินค่าเฉลี่ยที่ 1,795 จุด ลดลงจากเดือนก่อนที่ประเมินไว้ระดับ 1,860 จุด


นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซี แอล เอส เอ จำกัด บุตรชายของนายศุภชัย พานิชภักดิ์ ระบุว่า หากรัฐบาลกำหนดวันเลือกตั้งเมื่อไหร่ นักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุน ทำให้ดัชนีหุ้นปลายปีนี้ พุ่งขึ้นไปที่ระดับ 1,900 จุด บวกลบ 50 จุด และแม้จะกำหนดวันเลือกตั้งล่าช้าจากเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อีก 3-6 เดือน เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติยังยอมรับได้ แต่ถ้าปีหน้ายังไม่มีการเลือกตั้ง ต่างชาติจะไม่กลับเข้ามาลงทุน


ผู้บริหาร "ซี แอส เอส เอ"ถือว่า การเลือกตั้ง เป็นตัวชี้เป็นชี้ตายของตลาดหุ้นปีนี้ ถ้ารัฐบาลประกาศวันเลือกตั้งแน่นอนในปีหน้า ฝรั่งจะกลับมาลุยหุ้นทันที ดัชนีหุ้นจะพุ่งกระฉูด แต่ถ้า ปีนี้ยังไม่มีการกำหนดวันเลือกตั้ง ฝรั่งจะไม่กลับ เป้าหมายดัชนี ฯ 1,900 จุด จะเป็นแค่ตัวเลขบนความเพ้อฝันเท่านั้น

ไม่อาจหยั่งรู้ว่า ต้นปีหน้าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ ถ้ามีรัฐบาลจะกำหนดวันที่ชัดเจนเมื่อใด และถ้าประกาศวันเลือกตั้งที่แน่นอนแล้ว ดัชนี ฯ หุ้นจะพุ่งทะยานจริงหรือไม่ และฝรั่งจะกลับมาแน่หรือเปล่า


เพราะการที่ต่างชาติเทขายหุ้นทิ้ง ขนเงินกลับบ้าน โดยมียอดขายสะสมนับจากต้นปีเฉียด 200,000 ล้านบาทนั้น ไม่ได้เกิดจากมีการเลือกตั้งหรือไม่ แต่เกิดจาก

การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็ง และซ้ำเติมด้วยความวิตกในผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ

ประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่มีการเลือกตั้ง ปกครองด้วยเผด็จการทหาร จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนของต่างชาติ โดยกองทุนในต่างประเทศบางกองทุน มีนโยบายชัดเจน จะไม่ลงทุนในประเทศที่ปกครองด้วยระบบเผด็จการ


ถ้ามีเลือกตั้งเมื่อไหร่ กองทุนเหล่านี้จะกลับเข้ามาลงทุน แต่เงินลงทุนของกองทุนที่บอยคอตเผด็จการมีจำนวนไม่มาก เมื่อเทียบกับจำนวนเงินของต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นโดยไม่มีเงื่อนไข และพร้อมจะซื้อขายหุ้น ไม่ว่าจะเป็นประเทศเผด็จการหรือประชาธิปไตย


การประกาศวันเลือกตั้งที่ชัดเจน เป็นเรื่องที่ดี เพราะประเทศจะกลับสู่ระบบประชาธิปไตยเสียที แต่อย่าด่วนคาดหวังว่า ตลาดหุ้นจะบูมสนั่น ดัชนี ฯ จะพุ่งกระฉูดม้วนเดียว 200-300 จุด


เพราะการเลือกตั้งไม่ใช่เงื่อนไข หรือปัจจัยเดียวที่ต่างชาติจะพิจารณาตัดสินใจ ขนเงินกลับมาลุยตลาดหุ้นไทย

ต่อให้มีระบบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์เกิน 100% ถ้ารัฐบาลชุดใหม่ ยังไม่รู้ว่าจะไปได้กี่น้ำ เศรษฐกิจยังไม่รู้จะเป็นลูกผีหรือลูกคน และต่างชาติอาจไม่ให้น้ำหนักการลงทุนตลาดหุ้นไทยก็ได้

หุ้นจะพุ่งทะยานไป 1,900 จุด ถ้าประกาศวันเลือกตั้งที่ชัดเจน ตามความคาดหมายของบริษัทหลักทรัพย์ ซี แอส เอดอ ฟังแล้วดูดี แต่เป็นเพียงแค่คำทำนายเท่านั้น อย่าปักใจเชื่อ อย่าติดยึดว่า จะเป็นข่าวดีชิ้นใหญ่ของนักลงทุน

แม้มีการเลือกตั้งจริง แต่ใครบอกได้ไหม การเมืองจะนิ่งหรือไม่ เศรษฐกิจฟื้นหรือเปล่า และ มีอะไรยืนยันว่า ต่างชาติจะขนเงินกลับมาจริง

คำทำนายเกี่ยวกับตลาดหุ้นปลายปีนี้ของ “ซี แอล เอส เอ” จึงต้องฟังหูไว้หู อย่าเคลิ้มฝันถึงดัชนี ฯ 1,900 จุด

(สั่งจองหนังสือ “หุ้นวายร้าย” ราคาเล่มละ 190 บาท จากราคาเต็ม 240 บาท โทร. 0-2629-2700 , 08-2782-8353 , 08-2782-8356 )

(สั่งจองหนังสือ “หุ้นวายร้าย” ราคาเล่มละ 190 บาท จากราคาเต็ม 240 บาท โทร. 0-2629-2700 , 08-2782-8353 , 08-2782-8356 )


กำลังโหลดความคิดเห็น