สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 มิ.ย. 2561

- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 8 เมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศต่างๆ โดยรายงานล่าสุดระบุว่า อินเดียได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ที่เรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก และอลูมิเนียม จากอินเดียก่อนหน้านี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มค้าปลีกออนไลน์ ร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งรวมถึงหุ้นอเมซอน หลังจากศาลฎีกาสหรัฐฯ มีคำพิพากษาให้บริษัทค้าปลีกออนไลน์เรียกเก็บภาษีขายจากลูกค้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,461.70 จุด ลดลง 196.10 จุด หรือ -0.80% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,749.76 จุด ลดลง 17.56 จุด หรือ -0.63% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,712.95 จุด ลดลง 68.56 จุด หรือ -0.88%

- ตลาดหุ้นยุโรป ปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.) โดยได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มรถยนต์ หลังจากบริษัทเดมเลอร์ เอจี ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของเยอรมนี ได้ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรในปีงบการเงิน 2561 ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงาน ร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบเบรนต์ ก่อนที่การประชุมกลุ่มโอเปก จะมีขึ้นที่กรุงเวียนนา ในวันนี้ (22 มิ.ย.)

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.9% ปิดที่ 380.85 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. ปีนี้

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 12,511.91 จุด ลดลง 183.25 จุด หรือ -1.44% ส่วนดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 5,316.01 จุด ลดลง 56.30 จุด หรือ -1.05% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 7,556.44 จุด ลดลง 70.96 จุด หรือ -0.93%

- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมทั้งเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นหลังจากที่ประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ระบุว่า กรรมการบางคนของ BoE ได้สนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 7,556.44 จุด ลดลง 70.96 จุด หรือ -0.93%

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.) โดยได้รับปัจจัยลบจากรายงานข่าวที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ใกล้บรรลุข้อตกลงในการเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. ลดลง 17 เซ็นต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 65.54 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ส่งมอบเดือน ส.ค. ร่วงลง 1.69 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2.3% ปิดที่ 73.05 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันหลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 4 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 0.31% ปิดที่ 1270.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 1.7 เซ็นต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 16.326 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ก.ค. ร่วงลง 10.9 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.25% ปิดที่ 863.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ก.ย. ดิ่งลง 11.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.2% ปิดที่ 945.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

- ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งรวมถึงรายงานจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย ที่ระบุว่า ดัชนีภาวะธุรกิจมิด-แอตแลนติก ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้นหลังจากมีรายงานว่า กรรมการของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) บางคนได้สนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.86 เยน จากระดับ 110.39 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9908 ฟรังก์ จากระดับ 0.9957 ฟรังก์

ยูโร แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ระดับ 1.1622 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับ 1.1589 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3253 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับ 1.3186 ดอลลาร์สหรัฐฯ และดอลลาร์ออสเตรเลีย แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7389 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับ 0.7371 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 24,461.70 จุด ลดลง 196.10 จุด, -0.80%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 2,749.76 จุด ลดลง 17.56 จุด, -0.63%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 7,712.95 จุด ลดลง 68.56 จุด, -0.88%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 12,511.91 จุด ลดลง 183.25 จุด, -1.44%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 5,316.01 จุด ลดลง 56.30 จุด, -1.05%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 7,556.44 จุด ลดลง 70.96 จุด, -0.93%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดีย ปิดที่ 35,432.39 จุด ลดลง 114.94 จุด, -0.32%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิดที่ 3,300.00 จุด ลดลง 15.90 จุด, -0.48%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดที่ 1,692.32 จุด ลดลง 17.43 จุด, -1.02%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ปิดที่ 5,822.33 จุด ลดลง 61.71 จุด, -1.05%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดที่ 29,296.05 จุด ลดลง 400.12 จุด, -1.35%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ปิดที่ 7,098.15 จุด ลดลง 163.47 จุด, -2.25%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ปิดที่ 2,875.81 จุด ลดลง 39.92 จุด, -1.37%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดที่ 2,337.83 จุด ลดลง 26.08 จุด, -1.10%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดที่ 6,232.10 จุด เพิ่มขึ้น 59.50 จุด, +0.96%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดที่ 6,332.90 จุด เพิ่มขึ้น 58.30 จุด, +0.93%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดที่ 10,941.07 จุด เพิ่มขึ้น 13.63 จุด, +0.12%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดที่ 22,693.04 จุด เพิ่มขึ้น 137.61 จุด, +0.61%