บมจ.เมตะ คอร์ปอเรชั่น ขายเงินลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในจังหวัดฟุกุโอกะ และอิบารากิ กำลังการผลิต 15.4 เมกะวัตต์ ให้กับ Scarlet มูลค่า 87.81 ล้านบาท ทำให้มีกำไรจากการขายเงินลงทุนกว่า 41 ล้านบาท
นายศุภศิษฏ์ โภคินจารุรัศมิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ META เปิดเผยถึงการจำหน่ายเงินลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในจังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka) และจังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิตประมาณ 15.4 เมกะวัตต์ ซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ซางะ (Saga) จังหวัดซะงะ ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 13 เมกะวัตต์ และ 8 เมกะวัตต์ตามลำดับ โดยผ่านบริษัทย่อย บริษัท วินเทจ โฮลดิ้ง เจแปน จำกัด (VHJ) ที่ได้วางมัดจำแบบเรียกคืนได้ จำนวนประมาณ 150 ล้านเยน หรือประมาณ 46.68 ล้านบาท กับบริษัท Solmax Power Limited (Hong Kong) (Solmax HK) เมื่อต้นปี 2560 ที่ผ่านมา
ต่อมา ได้มีผู้ลงทุนสนใจซื้อสิทธิ์การลงทุนของบริษัท โดยเสนอราคาซื้อขาย 2.7 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา (คิดเป็นจำนวนประมาณ 87.81 ล้านบาท อ้างอิงจากอัตราแลกเปลี่ยนธนาคารแห่งประเทศไทยที่ 32.5224 บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐอเมริกา ณ วันที่ 12 พฤษภาคม 2561)
"หลังจากที่บริษัทได้วางเงินมัดจำเพื่อศึกษาถึงความเป็นไปได้ของโครงการดังกล่าว ทางบริษัทได้ค้นพบว่าโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ดีมีศักยภาพ และเมื่อบริษัทได้ลงมือพัฒนาโครงการอย่างจริงจัง ทำให้โครงการมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ซึ่งโครงการดังกล่าวมีแผนจะแล้วเสร็จในอีก 2-3 ปี ข้างหน้า" นายศุภศิษฏ์ กล่าวว่า
โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มนักลงทุนสนใจโครงการและได้ทำการติดต่อขอซื้อโครงการเข้ามาหลายครั้ง โดยบริษัทได้มีการเจรจากับนักลงทุนกลุ่มดังกล่าวเป็นระยะเวลา 6 เดือนมาแล้ว
ทั้งนี้ ทางบริษัทได้เล็งเห็นว่า ราคาเสนอซื้อจากนักลงทุนเป็นราคาที่น่าพึงพอใจ อันเนื่องมาจากโครงการเป็นโครงที่ดี จึงได้ตัดสินใจจำหน่ายเงินลงทุนให้กับบริษัท Scarlet Maple Investments Limited (Scarlet) จะสามารถสร้างกำไรให้กับบริษัท ได้อย่างท่วมท้น และเป็นการตอกย้ำสำหรับการเป็นบริษัทผู้พัฒนาโรงไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์