xs
xsm
sm
md
lg

(รับชมคลิป) แพลนบี ทุ่มงบ 182 ล้านบาท ซื้อหุ้น “BNK48”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แพลน บี มีเดีย ทุ่มงบลงทุน 182 ล้านบาท หรือคิดเป็น 35% เข้าซื้อหุ้น บริษัท บีเอ็นเค 48 ออฟฟิส จำกัด ต้นสังกัดศิลปินกลุ่ม “BNK48” วงไอดอลสัญชาติไทยสไตล์ญี่ปุ่น ตั้งเป้าสร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้จากความหลากหลาย และความนิยมของศิลปินตลอดจนธุรกิจสินค้าภายใต้ชื่อของบีเอ็นเค 48



นายพินิจสรณ์ ลือชัยขจรพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. แพลน บี มีเดีย หรือ PLANB ยื่นหนังสือรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ถึงการเข้าลงทุนในบริษัท บริษัท บีเอ็นเค 48 ออฟฟิส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทต้นสังกัดของศิลปินกลุ่ม BNK48 โดยทางคณะกรรมการ บมจ. แพลนบี มีเดีย ได้อนุมัติเงินลงทุน จำนวน 82,250,000 บาท ในการเข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 35 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ บริษัท บีเอ็นเค 48 ออฟฟิส จำกัด โดยได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น หรือ Term Sheet เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม วัตถุประสงค์ของการเข้าลงทุนดังกล่าวนั้น เพื่อเป็นการสร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้จากความหลากหลาย และความนิยมของธุรกิจ และสินค้าของบีเอ็นเค 48 ที่มีการประสาน และส่งเสริมกันกับ ธุรกิจหลักของบริษัทฯ และเพิ่มศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจใหม่ที่มีมูลค่าสำคัญต่อธุรกิจบันเทิง หรืออื่นๆ อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในส่วนจดทะเบียนและหุ้นเป็นจำนวน 20,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 2,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ทุนชำระแล้ว 20,000,000 บาท โดยมูลค่าการลงทุน บริษัทฯ จะเข้าซื้อหุ้นในอัตราส่วนรวมทั้งหมดร้อยละ 35 โดยแบ่งเป็นการซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วนร้อยละ 17.5 คิดเป็น 350,000 หุ้น มูลค่าไม่เกิน 82,250,000 บาท และบริษัทฯ จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนอีก 538,500 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 17.5 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลังเพิ่มทุน มูลค่าไม่เกิน 100,000,000 บาท

ทั้งนี้ มูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 182,250,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่คำนวณจากผลการดำเนินงานในอดีต และปัจจุบัน รวมถึงการคาดการณ์ผลกำไรสุทธิในอนาคต (กำไรสุทธิหลังหักภาษี หรือ NPAT) แหล่งเงินทุน และกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน

นอกจากนี้ในส่วนของแผนการลงทุนเพิ่มเติมนั้น บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาในการเข้าลงทุนด้านธุรกิจคอนเทนต์ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ อีกอย่างน้อย 1-2 แห่ง โดยมองว่าการเจรจาร่วมทุนกับ บริษัท โรส มีเดีย จำกัด ที่เป็นผู้ผลิตคอนเทนต์หลักร่วมกับทางญี่ปุ่น จะเป็นเทรนที่มีทิศทางการเติบโตที่ดีในอนาคต

ขณะเดียวกันบริษัทได้ยกเลิกแผนการเพิ่มทุน General Mandate จากเดิมที่เคยขอมติผู้ถือหุ้นไว้ที่จำนวน 1,058.88 ล้านหุ้น โดยจะปล่อยให้ระยะเวลาการขอเพิ่มทุนหมดอายุไป เนื่องจากมองว่าบริษัทยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากในตอนนี้เพราะยังมีประแสเงินสดเพียงพอต่อการลงทุน และมีอัตราหนี้สินต่อทุน หรือ D/E ในระดับต่ำเพียง 0.15 เท่า


กำลังโหลดความคิดเห็น