xs
xsm
sm
md
lg

“ลลิลฯ” ไตรมาสแรกกำไรสุทธิ 182 ล้านบาท เติบโต 60%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้” โชว์ศักยภาพแข็งแกร่งเหนือตลาดอย่างต่อเนื่อง ไตรมาสแรกปี 61 มียอดรับรู้รายได้ที่ 962.1 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 45% นับเป็นการขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่องจากที่บริษัทสามารถเติบโตในระดับสูงกว่า 30% ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในแง่ของกำไรสุทธิ บริษัทยังคงสามารถบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ในไตรมาสแรกนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 182.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 60%

นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” กล่าวว่า แม้บริษัทคาดการณ์ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2561 จะมีอัตราการเติบโตไม่มากนักราว 3-5% แต่ด้วยกลยุทธ์ที่วางเอาไว้ ประกอบกับการบริหารงานอย่างมืออาชีพ จึงมีความเชื่อมั่นว่า ในปีนี้จะเป็นอีกปีที่บริษัทสามารถเติบโตได้สูงกว่าอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องเช่นเคย โดยในไตรมาสแรกนี้ บริษัทมียอดรับรู้รายได้ที่ 962.1 ล้านบาท ซึ่งเติบโตได้ราว 45% ขณะที่ยอดขายสามารถทำได้ราว 1,500 ล้าน

นอกจากนี้ บริษัทยังคงสามารถบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ได้ดี โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 39.9% ซึ่งสูงเป็นลำดับต้นๆ ของบริษัทในตลาดฯ ในส่วนของต้นทุนการขาย และบริหาร บริษัทยังคงสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ในไตรมาสแรกนี้บริษัทมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 182.2 ล้านบาท ขยายตัวขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 60%

สำหรับการขยายธุรกิจ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดโครงการใหม่ไปทั้งสิ้น 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท โดยในไตรมาสสองมีแผนที่จะเปิดอีก 1-2 โครงการ มูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนธุรกิจในปีนี้ที่จะมีการเปิดโครงการใหม่ 8-10 โครงการ มูลค่ารวม 4,500-5,000 ล้านบาท ในแง่ของโครงสร้างเงินทุน แม้ว่าบริษัทจะมีการขยายธุรกิจอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่บริษัทยังคงรักษาระดับ Gearing ได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด โดย ณ สิ้นไตรมาสแรกนี้ บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่ที่ 0.82 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมของอุตสาหกรรม ซึ่งอยู่ที่ราว 1.3-1.4 เท่า สะท้อนความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของบริษัท และความพร้อมในการขยายธุรกิจของทางบริษัทได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ ตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติจัดสรรกำไรสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2560 โดยให้จ่ายปันผลทั้งปีในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท ซึ่งหากคิดจากราคาหุ้นของบริษัทในปัจจุบัน จะมี Dividend Yield อยู่ที่ราว 5.3% ทั้งนี้ บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.135 บาท ดังนั้น จะคงเหลือจ่ายปันผลเป็นเงินสดในงวดนี้อีก 0.165 บาท ซึ่งได้จ่ายให้ผู้ถือหุ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา


กำลังโหลดความคิดเห็น