xs
xsm
sm
md
lg

เอเชียกรีนฯ ไตรมาสแรกกวาดรายได้เฉียด 1.6 พัน ล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเชียกรีน เอนเนอจี แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2561 โชว์ยอดขายถ่านหิน 0.73 ล้านตัน ส่งผลรายได้รวม 1,592 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.6% กำไรสุทธิ 32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 195% เป็นผลมาจากการขยาย ยอดขายทั้งใน และต่างประเทศ ด้านผู้บริหาร “พนม ควรสถาพร” ตั้งเป้ารายได้รวมปี 61 โต 20-25% ลุยตลาดถ่านหินในประเทศ ตุนออเดอร์ยาวถึงไตรมาส 2/61 พร้อมบุกตลาดเวียดนาม สำหรับธุรกิจลอจิสติกส์ขนส่งทางน้ำ จ่อรับมอบเรือลำเลียง 4 ลำ ภายในไตรมาส 2/61 และสั่งต่อเพิ่มอีก 10 ลำทันที

นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชียกรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้นำเข้าและจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 1 ปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 ว่า บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 1,591.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.60% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินที่ 1,509.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.73% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา รายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ที่ 82.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และกำไรสุทธิ อยู่ที่ 32.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นช่วงเดียวกันของปีก่อน 195.5%

รายได้รวมปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการขยายตลาดในประเทศ และต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน โดยปริมาณการขายในประเทศอยู่ที่ 0.59 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ปริมาณการขายในต่างประเทศอยู่ที่ 0.14 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 139.1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ไตรมาส 1 ปี 2561บริษัทฯมีปริมาณการจำหน่ายถ่านหินทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ อยู่ที่ 0.73 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสนี้มีรายการพิเศษซึ่งจะบันทึกเพียงครั้งเดียว เป็นการบันทึกค่าเสียหายจากคดีฟ้องร้องเป็นจำนวนเงิน 30.27 ล้านบาท ถ้าหากไม่รวมรายการดังกล่าว บริษัทฯ จะมีกำไรจากการดำเนินงานที่ 56.35 ล้านบาท

“ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2561 มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเป็นผลจากกลยุทธ์การขยายตลาดที่ หลากหลายทั้งในประเทศ ที่มีการขยายฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และต่างประเทศ อาทิ เวียดนาม มีความต้องการใช้ถ่านหิน เพื่อใช้ในกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ต่างๆ มากขึ้น และบริษัทฯเริ่มรับรู้รายได้เพิ่มเติมจากธุรกิจให้บริการลอจิสติกส์” นายพนม กล่าว

อีกทั้งธุรกิจด้านลอจิสติกส์ด้านการขนส่งทางน้ำ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปีนี้ บริษัทฯเตรียมสั่งต่อเรือโป๊ะเพิ่มอีก 10 ลำ เพื่อการรองรับรองรับการขยายตัวของลูกค้าที่จะเติบโตมากขึ้น ทั้งการนำเข้า และส่งออก ส่งผลให้ภายในต้นปีหน้าบริษัทฯ จะมีเรือโป๊ะ ทั้งหมด 22 ลำ นอกจากนี้ บริษัทได้ปรับปรุงพื้นที่จากที่ดินที่ซื้อเพิ่มเติมในช่วงปี 2560 เพื่อขยายพื้นที่คลังสินค้าเพื่อเพิ่ม พื้นที่กองเก็บถ่านหิน และพื้นที่ให้บริการคลังสินค้า ซึ่งคาดว่าส่วนแรก จะเสร็จในช่วงไตรมาส 3 ปี 2561

ดังนั้น จากกลยุทธ์ช่องทางการขยายธุรกิจดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯ มั่นใจว่า อัตราการเติบโตของรายได้ในปี 2561 เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยมีปริมาณการขายถ่านหินที่ 20-25% แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 20% และในประเทศจะอยู่ที่ 80% และมียอดขายถ่านหินทั้งปีที่ระดับ 3 ล้านตัน และรายได้จากธุรกิจการให้บริการในคลังสินค้า ขนสินค้าผ่านท่าเรือ และให้บริการขนส่งทางน้ำทางบก แบบครบวงจรเพิ่มมากขึ้นจากจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น