เผยพฤติกรรมเลือกซื้อที่อยู่อาศัยผู้บริโภค

ศูนย์วิจัยฯ ศุภาลัย ได้สำรวจผู้บริโภคเกี่ยวกับพฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า ปัจจุบัน การเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคมีการปรับตัว และเปลี่ยนแปลงจากอดีตที่ผ่านมา โดยปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยที่ผู้บริโภค ไม่ว่าจะการเลือกซื้อเป็นคอนโดมิเนียม การซื้อบ้าน รวมถึงการเลือกซื้อทาวน์โฮม ยังคงให้ความสำคัญกับการเลือกทำเลที่ตั้งของโครงการ โดยเฉพาะโครงการที่อยู่ใกล้กับระบบขนส่งมวลชน

นอกจากนี้ วัสดุก่อสร้างก็เป็นอีกปัจจัยที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ รวมถึงวัสดุที่เลือกใช้ในการตกแต่งภายใน ซึ่งผู้บริโภคให้น้ำหนักกับการเลือกวัสดุที่มีความแข็งแรงคงทน และต้องเป็นวัสดุที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน รวมถึงวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างด้วย ขณะที่ในเรื่องของราคาขายก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกเรื่องที่ไม่ด้อยไปกว่าทำเลที่ตั้งโครงการ และคุณภาพวัสดุก่อสร้างวัสดุตกแต่ง โดยในเรื่องของราคานั้น เมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่าย โดยรวมแล้วต้องคุ้มค่าเหมาะสมกับราคาที่ผู้บริโภคต้องจ่ายออกไป

อย่างไรก็ตาม ในการสำรวจยังพบอีกว่า การเลือกซื้อทำเลที่ตั้งของที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้ หรืออยู่ในโซนเดียวกับสถานที่ทำงาน ส่วนช่องทางที่มีอิทธิพลมากที่สุดในการตัดสินใจซื้อ คือ สมาชิกในครอบครัว/ญาติ และตัวแทนขายบ้าน/คอนโดฯ โดยความถี่ในการหาข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยจะหาข้อมูลเป็นบางโอกาส นั่นคือ ผู้บริโภคจะหาข้อมูลที่อยู่อาศัยก็ต่อเมื่อมีความสนใจ หรือต้องการที่อยู่อาศัยในช่วงเวลานั้นๆ

ทั้งนี้ หากแยกตามประเภทที่อยู่อาศัย จะเห็นว่า การเลือกที่ซื้อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์นั้น ในปัจจุบัน ปัจจัยในการเลือกอันดับต้นๆ คือ ระยะห่างจากระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้า ซึ่งมีสูงถึง 29% ถัดมา คือ ขนาดของพื้นที่ใช้สอย 21% รองลงมา คือ วัสดุก่อสร้าง และวัสดุตกแต่งบ้าน ที่เลือกใช้ มีความทนทานแข็งแรง และคุณภาพได้มาตรฐานหรือไม่ 14% ต่อมาถือความสะดวกของสภาพแวดล้อมในพื้นที่ใกล้เคียงโครงการ 14% ส่วนราคาขายนั้นจะมาเป็นอันดับสุดท้าย โดยมีน้ำหนักต่อการตัดสินใจเลือกซื้อเพียง 10% เท่านั้น