xs
xsm
sm
md
lg

สถานการณ์ซีเรียดันราคาทองพุ่ง แต่แรงเทขายมีมาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สถานการณ์ในซีเรียผลักดันราคาทองคำขยับตัวเพิ่ม กดดันสินทรัพย์เสี่ยง ประเมินราคาทองคำอยู่ในระดับสูง แรงเทขายทำกำไรมีมาก

“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงภาพรวมราคาทงอคำว่า ที่ผ่านมา ราคามีการทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน เพราะได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากรัฐบาลซีเรีย มีการถูกกล่าวหาโดยสหรัฐฯ ว่ามีการใช้แก๊สพิษทำร้ายประชาชน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวิตข้อความเตรียมยิงขีปนาวุธถล่มซีเรีย และมีการเตือนรัสเซียซึ่งเป็นประเทศพันธมิตรของซีเรียให้ทราบ สถานการณ์ความตึงเครียดดังกล่าวส่งผลให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมีการทะยานขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนในตัวตลาดทองคำมีการแบ่งทองคำออกขายสลับออกมา หลังจากทิศทางผลการประชุุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ผ่านมา ยังคงบ่งชี้ว่าจะยังคงมีการคุมเข้ม หรือปรับดอกเบี้ยตามแผนการที่วางไว้ เพราะมีการคาดการณ์ไว้ว่า ตัวเลขเศรษฐกิจ หรือเงินเฟ้ออาจมีการเติบโตเป็นไปตามที่คาดการณ์
 
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์ ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ว่า ทิศทางจะเป็นเช่นไร ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวกลับมาเป็นปัจจัยตึงเครียดส่งผลเชิงลบต่อสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง และน่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำเพิ่มเติม แต่หากสถานการณ์ดังกล่าวเริ่มคลี่คลายอาจจะกลับไปหนุนตัวสินทรัพย์เสี่ยง และอาจสร้างแรงขายทำกำไรในตลาดทองคำสลับออกมาได้เช่นกัน

สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องจับตา ยังมีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ เช่น การเปิดเผยยอดค้าปลีกประจำเดือนมีนาคม และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในฝั่งจีน ไม่ว่าจะเป็นตัว GDP ประจำไตรมาส 1 ของปี 2561 การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนมีนาคม การเปิดเผยดัชนีผู้บริโภค หรือ CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อในฝั่งยุโรป และฝั่งสหรัฐฯ จะมีการสรุปรายงานภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งใช้เป็นรายงานก่อนก่านประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า เป็นต้น อย่างไรก็ตามราคาทองคำยังคงอ่อนไหวต่อสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ กับรัสเซีย หรือประเด็นที่สหรัฐฯ ร่วมมือกับพันธมิตร เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส โจมตีในฝั่งของซีเรีย ซึ่งหากมีการยิงขีปนาวุธหรือโจมตีจริง อาจจะเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่กดดันในสินทรัพย์เสี่ยง และกลับมาหนุนราคาทองคำเพิ่มเติม

ทำให้กลยุทธ์ในสัปดาห์นี้ ให้แนวรับบริเวณ 1,333 และ 1,306 เหรียญ/ออนซ์ แนวต้านประเมินไว้บริเวณ 1,375 และ 1,392 เหรียญ/ออนซ์ สำหรับกลยุทธ์การลงทุุนยังคงเน้นทำกำไรระยะสั้นถึงแม้ว่าแนวโน้มหรือโมเมนตัมยังคงเป็นบวก และมีการทำระดับสูงสุดครั้งใหม่ แต่เนื่องจากการเคลื่อนไหว หรือการดีดตัวขึ้นมาของราคาทองคำตอนนี้ถือว่าอยู่ในระดับสูง และค่อนข้างแพง ดังนั้น จะเป็นว่ามีแรงขายทำกำไรสลับออกมาค่อนข้างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเข้าซื่ออาจรอการอ่อนตัวลงมาใช้แนวรับระดับ 1,342 และ 1,333 เหรียญ/ออนซ์ เป็นจุดพิจารณา หากไม่หลุดอาจจะเข้าซื้อและถือทองคำต่อเพื่อหวังทำกำไรจากการดีดตัว โดยระยะสั้น หากราคาผ่านแนวต้าน หรือระดับสูงสุดบริเวณ 1,366 เหรียญ/ออนซ์ได้ สามารถถือต่อเพื่อไปขายยังแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,375 ซึ่งหากราคายังไม่ผ่านในระดับดังกล่าว หรือโซนดังกล่าวอาจเกิดแรงขายทำกำไรสลับออกมา



กำลังโหลดความคิดเห็น