xs
xsm
sm
md
lg

“กานดา” รุกอสังหาฯ เต็มสูบ ลุยเปิด 10 โครงการ-แตกไลน์อสังหาฯ ให้เช่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายอิสระ บุญยัง
“กานดา” รุกตลาดอสังหาฯ เต็มสูบ เล็งลงทุนโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ สำนักงานให้เช่า หวังเพิ่มพอร์ตรายได้ระยะยาว คาดเริ่มทยอยเปิดให้บริการได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า พร้อมเผยปี 61 เปิดบ้านแนวราบ 10 โครงการ มูลค่ากว่า 6,700 ล้านบาท

นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายการลงทุนไปยังธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รูปแบบให้เช่า ได้แก่ โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ อาคารสำนักงานให้เช่า อาคารพาณิชย์ให้เช่า โฮมออฟฟิศ และวิลลา เป็นต้น เนื่องจากต้องการเพิ่มพอร์ตรายได้ระยะยาว กระจายความเสี่ยงจากการลงทุน โดยขณะนี้หลายโครงการอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ภายใน 2 ปีข้างหน้านี้

สำหรับที่ดินที่จะนำมาพัฒนาเป็นโครงการเพื่อปล่อยเช่านั้น อาทิ 1. ที่ดินขนาดเกือบ 5 ไร่ ทำเลถนนกัลปพฤกษ์ ตรงข้ามโฮมโปร ราชพฤกษ์ ซึ่งถนนด้านหน้า-หลังเป็นรถไฟฟ้า เดิมบริษัทมีแผนจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม และได้ปรับแผนเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และออฟฟิตให้เช่า 2.ที่ดินในย่านบางกรวย ขนาด 510 ตร.ม. อยู่ระหว่างศึกษาการพัฒนาเป็นออฟฟิตหรือเซอร์วิสอพาร์ท์เมน

3. ที่ดินเปล่า จ.ภูเก็ต ขนาด 5 ไร่ อยู่ตรงข้ามแม็คโคร ห่างจากเซ็นทรัล ภูเก็ต เพียง 400 เมตร ซึ่งเดิมมีแผนจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม และผ่านการอนุมัติการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากที่ดินแปลงดังกล่าวมีศักยภาพมากจึงต้องการเก็บไว้ และพัฒนาเป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และสำนักงานให้เช่าแทน อย่างไรก็ตาม การพัฒนาโครงการจะต้องรอความชัดเจนของเซ็นทรัลว่าเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้หรือไม่ โดยเฉพาะในส่วนของการพัฒนาโรงแรม รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการ

4. ที่ดินใกล้สี่แยกถลาง ภูเก็ต เนื้อที่ 20 ไร่จากทั้งหมด 40 ไร่ โดยแบ่งพัฒนาเป็น โครงการ “ไอลีฟ ไพร์ม ถลาง” จำนวน 20 ไร่ เหลือพื้นที่อีก 20 ไร่ บริษัทมีแผนจะพัฒนาเป็นพูวิลลา ขนาด 3-4 ห้องนอน เพื่อปล่อยเช่าราคาประมาณ 70,000-80,000 บาทต่อเดือน รวมถึงโรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์

นายอิสระ กล่าวต่อว่า การพัฒนาโครงการให้เช่าไม่ว่าจะเป็นโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ อาคารสำนักงาน คาดว่าจะใช่เงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มทยอยลงทุนในแปลงที่มีศักยภาพก่อน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างแล้วเสร็จและทยอยเปิดให้บริการได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า

“ที่ดินหลายแปลงของบริษัทตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ บางทำเลซื้อมาเพื่อต้องการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งการพัฒนาสินค้าเพื่อขาย ก็เท่ากับขายที่ดินไปด้วย ซึ่งน่าเสียดายหากนำมาพัฒนาเพื่อสร้างรายได้ในระยะยาว จะได้ประโยชน์มากกว่า โดยหลังจากนี้ที่ดินแปลงไหนที่บริษัทซื้อมาเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยหากเป็นทำเลที่มีศักยภาพก็จะกันพื้นที่บางส่วนหรือบริเวณด่านหน้าโครงการมาพัฒนาอสังหาฯ เพื่อปล่อยเช่า” นายอิสระ กล่าว

นายอิสระ กล่าวถึงแผนธุรกิจในปีนี้ว่า กานดา จะเปิดตัวโครงการใหม่แบบก้าวกระโดด โดยจะมี 2-3 โครงการที่จะเลื่อนมาเปิดตัวในปีนี้ ทำให้ตลอดทั้งปีจะเปิด 10 โครงการใหม่ออกสู่ตลาด รวมมูลค่าสูงกว่า 6,700 ล้านบาท เพิ่มกว่า 100% จาก 5 โครงการที่เปิดตัวได้ในปี 60 การเปิดตัวโครงการใหม่ในจำนวนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว เนื่องมาจากการเลื่อนเปิดโครงการในปี 2560 ที่ผ่านมา จากปัญหาการชะลอตัวของตลาด ทำให้ในปีนี้มีการเปิดโครงการใหม่จำนวนมากดังกล่าว

สำหรับรูปแบบหลัก ๆ ในการพัฒนาปีนี้จะเปิดโครงการแนวราบประเภท ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่าง ราคาเริ่มต้น 1.7- 4 ล้านบาท ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าที่อยู่อาศัยเป็นครอบครัวใหญ่ หรืออยู่อาศัยร่วมกันถึง 3 เจนเนอเรชัน เนื่องจากเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ และมีอัตราการขยายตัวสูง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อไม่เกิน 3 ล้านบาท แต่ต้องการที่อยู่อาศัยที่สามารถรองรับครอบครัวใหญ่ได้ ซึ่งกลุ่มนี้ บริษัทได้พัฒนาทาวน์โฮม 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ รองรับที่จอดรถ 2 คัน เพื่อสอดรับความต้องการลูกค้ากลุ่มดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับดีมาก

จากการจัดเก็บข้อมูลในงานมหกรรมบ้านและคอนโดในครั้งที่ผ่าน ๆ มา พบว่า ฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่สุดในตลาด และมีอัตราการขยายตัวสูง คือ กลุ่มระดับกลาง-ล่าง ที่ต้องการที่อยู่อาศัยระดับราคา 2-3 ล้านบาท โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับราคา 2 ล้านบาท ซึ่งมีกว่า 60% ของตลาดรวม และกลุ่มนี้มีกำลังซื้อเหมาะกับที่อยู่อาศัยประเภททาวน์โฮม หรือทาวน์เฮาส์ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อจำกัด แต่ต้องการพื้นที่อยู่อาศัยค่อนข้างมาก เพื่อรองรับการอยู่อาศัยของครอบครัวใหญ่ที่ร่วมกันถึง2หรือ 3 เจเนอเรชัน

สำหรับ 10 โครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้ จะทยอยเปิดตัวในไตรมาสแรก 3 โครงการ คือ 1. โครงการ ไอลีฟทาวน์ ลำลูกกา คลอง 6 ทาวน์โฮม 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้น 1.8-2.3 ล้านบาท จำนวน 181 ยูนิตมูลค่า 400 ล้านบาทเศษ 2.โครงการ ไอลีฟทาวน์ ประชาอุทิศ 90 ทาวน์โฮม 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 298 ยูนิต มูลค่า 622 ล้านบาท และ 3.โครงการ ไอลีฟ ไพร์ม ถลาง เฟส 1 พื้นที่ 20 ไร่ ทาวน์โฮมจำนวน 193 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท มูลค่า 477 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 50 ยูนิต

ไตรมาสที่ 2 เปิดอีก 3 โครงการใหม่ ประกอบด้วย 1. โครงการไอลีฟทาวน์ ราชพฤกษ์ วงแหวน ทาวน์โฮม 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 439 ยูนิตบนพื้นที่ 40 ไร่ มูลค่า 961 ล้านบาท 2. โครงการไอลีฟพาร์ค พระราม 2 กม. 14 โครงการทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว 395 ยูนิต มูลค่า 1,100 ล้านบาท และ 3. โครงการไอลีฟ ทาวน์ พระราม 2 กม. 18 ทาวน์โฮม 201 ยูนิต มูลค่า 450 ล้านบาท

สำหรับ ไตรมาสที่ 3 จะเปิดตัว 3 โครงการในพื้นที่ใกล้กัน ซึ่งอยู่ใกล้ เซ็นทรัลพระราม 2 สาขาใหม่ติดถนนเศรษฐกิจ ใน จ.สมุทรสาคร ประกอบด้วย 1. โครงการไอลีฟบิต อาคารพาณิชย์ 50 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท มูลค่า 200 ล้านบาท 2. โครงการไอลีฟพาร์คบ้านเดี่ยวผสมทาวน์โฮม 137 ยูนิต มูลค่า 450 ล้านบาท และ 3. โครงการไอลีฟทาวน์ 490 ยูนิตมูลค่า 992 ล้านบาท และไตรมาส 4 จะเปิด 1 โครงการ คือ ไอลีฟทาวน์ รังสิตคลอง 4 ทาวน์โฮม 460 ยูนิต มูลค่า 900 ล้านบาท

โดยปีนี้ กานดาฯ ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวม 2,800 ล้านบาท เติบโต 15% เมื่อเทียบกับยอดขายในปีที่ผ่านมาที่ 2,200 ล้านบาท และมียอดโอน 2,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1,700 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 15% โดยช่วงไตรมาส 1 บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้แล้ว 800 ล้านบาท.


กำลังโหลดความคิดเห็น