xs
xsm
sm
md
lg

ศุลกากร-การท่าเรือฯ ลงนามสัญญาตรวจปล่อยสินค้าขาออกลงเรือเฉพาะเขต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กรมศุลกากร-การท่าเรือฯ ร่วมลงนามสัญญาประกันทัณฑ์บน พิธีการศุลกากรส่งออกว่าด้วยการตรวจปล่อยสินค้าขาออกในเขตพื้นที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ เพื่อบรรทุกลงเรือเฉพาะเขต  หวังอำนวยความสะดวก เพิ่มประสิทธิภาพทางการค้า และลดต้นทุนโลจิสติกส์ไม่ต่ำกว่าปีละ 1,400 ล้านบาท และช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งสามารถเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี

นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวในพิธีลงนามร่วมในสัญญาประกันทัณฑ์บน พิธีการศุลกากรส่งออกว่าด้วยการตรวจปล่อยสินค้าขาออกในเขตพื้นที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ เพื่อบรรทุกลงเรือเฉพาะเขต (Specific Local Vessel) และรับบรรทุกที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมกับ
เรือตรีทรงธรรม จันทประสิทธิ์ รองผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย สายวิศวกรรม รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทยว่า กรมศุลกากรและการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้ประสานความร่วมมือในการอำนวยความสะดวกทางการค้า เพิ่มประสิทธิภาพในการส่งออกสินค้า และลดต้นทุนการส่งออกสินค้าของประเทศ

โดยกรมศุลกากรออกประกาศกรมศุลกากร ที่ 37/2561 เรื่อง พิธีการศุลกากรส่งออกว่าด้วยการตรวจปล่อยสินค้าขาออกในเขตพื้นที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ เพื่อบรรทุกลงเรือเฉพาะเขต (Specific Local Vessel) และรับบรรทุกที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง และการท่าเรือแห่งประเทศไทยได้จัดทำโครงการท่าเทียบเรือชายฝั่ง 20G ท่าเรือกรุงเทพ (Bangkok Port Coastal Terminal Optimizing Your Business) เพื่อสนับสนุนการขนส่งทางน้ำภายในประเทศ ส่งเสริมระบบโลจิสติกส์ ลดปริมาณการจราจรทางบก และเพิ่มขีดความสามารถด้านการส่งออกของประเทศ

สำหรับการดำเนินพิธีการศุลกากรส่งออกในรูปแบบนี้ จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในระบบโลจิสติกส์ได้ไม่น้อยกว่า 1,400 ล้านบาทต่อปี และยังเป็นการลดปริมาณการใช้พลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยลดปริมาณการใช้น้ำมันได้ไม่น้อยกว่า7.4 ล้านลิตรต่อปี ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ไม่น้อยกว่า 26.7 ล้านตันคาร์บอนต่อปี อีกทั้งสามารถเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี และจะเพิ่มขึ้นตามปริมาณการใช้บริการ หากท่า
เอกชนในกำกับดูแลภายใต้สำนักงานศุลกากรกรุงเทพเปิดดำเนินการในลักษณะเดียวกัน คาดว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจจะเพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานตามกระบวนการทางศุลกากรล่วงหน้าก่อนสินค้ามาถึง (Pre-Arrival Processing) กรมศุลกากรได้ออกประกาศกรมศุลกากร ที่ 5/2561 เรื่อง กระบวนการทางศุลกากรล่วงหน้าก่อนสินค้ามาถึง (Pre-Arrival Processing) ซึ่งเป็นกระบวนการทางเลือกที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้นำของเข้าในการนำสินค้าเข้ามาจากต่างประเทศ โดยผู้นำของเข้าสามารถยื่นใบขนสินค้าขาเข้าล่วงหน้าและยื่นชำระค่าภาษีอากร (ถ้ามี) ล่วงหน้าได้ ก่อนที่เรือ/อากาศยาน จะเข้ามาถึง ณ ท่า/สนามบินที่เป็นด่านศุลกากร

นอกจาก ผู้นำของเข้าจะสามารถยื่นใบขนสินค้าขาเข้าล่วงหน้าได้ต่อเมื่อนายเรือ ผู้ควบคุมอากาศยาน หรือตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจากนายเรือ/ผู้ควบคุมอากาศยาน หรือตัวแทนเรือ/อากาศยาน ยื่นบัญชีสินค้าสำหรับเรือ/อากาศยาน ให้กับกรมศุลกากรแล้ว และผู้นำของเข้าต้องยื่นใบขนสินค้าขาเข้าในเดือนเดียวกันกับเดือนที่สินค้าจะมาถึง

โดยหลังจากเริ่มใช้ประกาศกรมฯ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม 2561 มีจำนวนใบขนสินค้าขาเข้าที่ส่งเข้าระบบคอมพิวเตอร์กรมศุลกากรแบบล่วงหน้าดังนี้ จำนวนใบขนสินค้าขาเข้า/ฉบับคิดเป็นร้อยละใบขนสินค้าขาเข้าทั้งหมด 518,413 ใบขนสินค้าที่ส่งมาก่อนสินค้ามาถึง 51,030 ฉบับ.หรือคิดเป็น 9.84% และใบขนสินค้าที่ชำระภาษีก่อนสินค้ามาถึง16,430 ฉบับ หรือดคิดเป็น 3.17%

นายกุลิศ ย้ำด้วยว่า กระบวนการทางศุลกากรล่วงหน้าก่อนสินค้ามาถึงนี้ เป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้นำของเข้าสามารถปฏิบัติพิธีการศุลกากรในการนำเข้าสินค้าที่มาต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว ลดระยะเวลา ลดค่าใช้จ่าย ส่งเสริมระบบโลจิสติกส์และการค้าระหว่างประเทศ อันเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและสอดคล้องกับบทบัญญัติตามความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้า (Trade Facilitation Agreement) ภายใต้องค์การการค้าโลก


กำลังโหลดความคิดเห็น