ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับกรรมการ บริษัท ผาแดง อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (PDI) รายนายพินิต วงศ์มาศา กรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้น PDI ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายชัชชลา วงศ์มาศา โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่ง และส่งคืนผลประโยชน์ รวม 1,917,895.83 บาท
“ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า นายพินิต วงศ์มาศา ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระ (ปัจจุบันไม่ได้ดำรงตำแหน่ง) ของ PDI ได้ทราบข้อมูลผลประกอบการของ PDI ประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2559 ว่า มีกำไรสุทธิ 221.45 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากไตรมาสก่อน และได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลภายในดังกล่าวซื้อหุ้น PDI ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบุตรชาย คือ นายชัชชลา วงศ์มาศา จำนวน 256,500 หุ้น ก่อนที่ PDI จะเปิดเผยงบการเงินไตรมาสดังกล่าวต่อประชาชนเป็นการทั่วไปผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2559”
อย่างไรก็ตาม การกระทำของนายพินิต เป็นการซื้อหลักทรัพย์โดยอาศัยข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงราคาของหลักทรัพย์ที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อประชาชน เข้าข่ายเป็นการเอาเปรียบต่อบุคคลภายนอก เป็นความผิดตามมาตรา 241 และมีระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งปัจจุบันยังคงเป็นความผิดตามมาตรา 242 และมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 และนายชัชชลา ให้การช่วยเหลือสนับสนุนการกระทำผิดของนายพินิต ซึ่งเป็นความผิดและมีระวางโทษตามบทบัญญัติดังกล่าวประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาบังคับ และผู้กระทำผิดทั้ง 2 ราย ได้ทำบันทึกยินยอมรับมาตรการลงโทษทางแพ่งและปฏิบัติตามบันทึกยินยอมดังกล่าวครบถ้วนแล้ว ดังนี้ (1) นายพินิตชำระค่าปรับทางแพ่ง จำนวน 880,312.50 บาท และส่งคืนประโยชน์จำนวน 704,250 บาท และ (2) นายชัชชลาชำระค่าปรับทางแพ่ง จำนวน 333,333.33 บาท ซึ่งเงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำผิด เป็นรายได้แผ่นดินที่ ก.ล.ต. จะนำส่งกระทรวงการคลังต่อไป
ทั้งนี้ การที่ ค.ม.พ. ให้ปรับทางแพ่งกับผู้กระทำผิด มีผลทำให้ผู้กระทำผิดทั้ง 2 ราย เป็นผู้มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจและไม่สามารถเข้ามาเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ และบริษัทจดทะเบียน