xs
xsm
sm
md
lg

YLG : สรุปผลการประชุมเฟด (20-21 มี.ค.)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


        คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้  ขณะที่แถลงการณ์ภายหลังการประชุม กล่าวว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะขยายตัวปานกลางในระยะกลาง และภาวะในตลาดแรงงานจะยังคงมีความแข็งแกร่ง ส่วนอัตราเงินเฟ้อเมื่อเทียบรายปีนั้น คาดว่า จะปรับตัวขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ และจะมีเสถียรภาพที่ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายในระยะกลางของเฟด  

          ด้าน นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวว่า เขาไม่เห็นหลักฐานการขยายตัวของค่าแรงที่เร็วขึ้น ท่ามกลางภาวะแรงงานที่ตึงตัวมากขึ้น  นอกจากนี้ ยังกล่าวอีกว่า กรรมการเฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าที่อาจจะมีการนำมาใช้อย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งจะสร้างความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ และอาจส่งผลให้เกิดการตอบโต้ทางการค้าเป็นวงกว้าง  สำหรับ Dot Plot หรือคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเจ้าหน้าที่เฟดปรากฏค่ากลางของการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.1% ภายในสิ้นปีนี้  ซึ่งบ่งชี้ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2018  และมีการปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 2.9% ภายในสิ้นปี 2019  และ 3.4% ในปี 2020 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.7% และ 3.1% ในประมาณการล่าสุดที่ออกในเดือนธันวาคมตามลำดับ ถึงแม้ว่าค่ากลางของ Dot-Plot ครั้งใหม่นี้จะเท่ากับครั้งก่อน  แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า จากเจ้าหน้าที่เฟดทั้งหมด 15 คน  มีเจ้าหน้าที่เฟดถึง 7 คน ที่มีมุมมองสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้ ขณะที่อีก 8 คนที่เหลือ สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง หรือน้อยกว่าในปีนี้ 
 
          เปรียบเทียบกับ Dot-Plot ประจำการประชุมเฟดเดือน ธ.ค.ปี 2017 ซึ่งมีเจ้าหน้าเฟดทั้งหมด 16 คน โดยมีเจ้าหน้าที่เฟดเพียง 4 คนเท่านั้นที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปี 2018  ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟด 6 คน สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2018 และอีก 6 คน สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่า 3 ครั้งในปี 2018  ดังนั้น  ถือได้ว่า Dot Plot ครั้งนี้บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีมุมมองในเชิง Hawkish มากขึ้นกว่าการประชุมครั้งก่อนหน้า  แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนค่ากลางของการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย

          รายงานคาดการณ์เศรษฐกิจรายไตรมาส (FED Summary of Economic Projections) ประจำเดือน มี.ค.2018 บ่งชี้ว่า เฟดปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของสหรัฐฯ ในปีนี้สู่ระดับ 2.7% จากเดิมที่ 2.5% และได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจในปีหน้าสู่ระดับ 2.9% จากเดิมที่ระดับ 2.7% ส่วนการขยายตัวในปี 2020 คาดว่าจะชะลอตัวสู่ 2% ขณะที่อัตราการขยายตัวในระยะยาวยังคงอยู่ที่ระดับ 1.8%  ในด้านอัตราการว่างงานนั้นเฟดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 3.8% ในปีนี้ จากเดิมที่ 3.9% และปรับตัวลงต่อไปในปีหน้าสู่ระดับ 3.6% จากเดิมที่ 3.9% ส่วนตัวเลขในปี 2020 คาดว่าจะอยู่ที่ 3.6% จากเดิมที่ 4%  นอกจากนี้ เฟดยังคงคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไป และเงินเฟ้อพื้นฐานที่ระดับ 1.9% ในปีนี้ ส่วนในปีหน้า คาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานจะปรับตัวขึ้นสู่ 2.1% จากเดิมที่ระดับ 2.0% และตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปยังคงอยู่ที่ 2.0% ส่วนในปี 2020 คาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไป และเงินเฟ้อพื้นฐานจะอยู่ที่ 2.1% จากเดิมที่ 2.0% 
 
          ส่วนอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเฟดคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 2.1% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือน ธ.ค. แต่เฟดปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในปีหน้าสู่ระดับ 2.9% โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.7% ส่วนอัตราดอกเบี้ยในปี 2020 คาดว่าจะอยู่ที่ 3.4% จากเดิมที่ 3.1% และปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยระยะยาวสู่ 2.9% จากเดิมที่ 2.8%จะเห็นได้ว่าท่าทีในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงสายเหยี่ยว (Hawkish) น้อยกว่าคาด 
 
        รวมถึงการคงจำนวนครั้งของการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย  ส่งผลกดดันสกุลเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง และช่วยหนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ลงไปทดสอบระหว่างการซื้อขายของวันพุธ และปิดพุ่งขึ้นกว่า 1.6% ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงลักษณะการเคลื่อนไหวของราคาทองคำตอบรับผลการประชุมเฟด  ที่ราคาทองคำมักจะปรับตัวลดลงมาทำระดับต่ำสุดก่อนหน้าการประชุมเฟดเพื่อรับกระแสการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด  ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นหลังจากการประชุมเฟดเสร็จสิ้นลง  
 

 วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล



กำลังโหลดความคิดเห็น