บอร์ด ซีพีแอล กรุ๊ป ไฟเขียวจ่ายปันผลผู้ถือหุ้น เผยจ่ายเป็นหุ้นปันผลในอัตรา 20 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล คิดเป็นอัตราหุ้นปันผลหุ้นละ 0.0500 บาท พร้อมจ่ายปันผลเป็นเงินสดอัตราหุ้นละ 0.00556 บาท เผยดำเนินการตามแผนรักษาสภาพคล่องเงินสด หลังบริษัทฯ เตรียมลงทุนหลายโครงการ ย้ำเป้าหมายภายใน 2 ปี ขยายกำลังผลิตหนังสำเร็จรูปเพิ่ม 3 เท่าตัว จาก 45,000 ตัวต่อเดือนเป็น 120,000 ตัว ขณะธุรกิจรับจ้างฟอกหนังวัวและหนังหมูอยู่ระหว่างเดินหน้าตามแผน
นายภูวสิษฏ์ วงษ์เจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CPL ผู้นำอุตสาหกรรมฟอกหนังสำเร็จรูปรายใหญ่ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นกิจการในกลุ่มบริษัทเจริญสิน เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น โดยจ่ายเป็นหุ้นสามัญในอัตรา 20 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล จำนวนไม่เกิน 20,944,970 หุ้น คิดเป็นอัตราหุ้นปันผลไม่เกินหุ้นละ 0.0500 บาท หรือคิดเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 20,944,970 บาท พร้อมทั้งจ่ายปันผลเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.00556 บาท หรือคิด
เป็นจำนวนเงินไม่เกิน 2,329,081 บาท โดยจะกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับปันผล (Record Date) ในวันที่ 12 มีนาคม และกำหนดจ่ายในวันที่ 23 พฤษภาคม 2561
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้มีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียน จาก 418,899,370 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 439,844,340 หุ้น ด้วยการออกหุ้นใหม่จำนวน 20,944,970 หุ้น เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผลดังกล่าว
“การตัดสินใจจ่ายหุ้นปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ไม่ได้จ่ายเป็นเงินปันผลเพียงอย่างเดียวเหมือนที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า ในช่วงที่เหลืออยู่ของปีนี้ ต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า จะเป็นช่วงเวลาที่ CPL จะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในหลายๆ โครงการที่ได้วางแผนไว้ โดยเฉพาะการขยายการผลิตให้กับลูกค้ารายใหม่ๆ ที่เราเข้าไปเปิดตลาด ทั้งที่เป็นกลุ่มผู้ผลิตรองเท้า และการขยายไปสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ ซึ่งเป็นผู้ผลิตกระเป๋าแบรนด์เนม ประกอบกับในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ลงทุนขยายพื้นที่ของโรงงาน ขยายกำลังการผลิต และได้ดำเนินการติดตั้งถังฟอกหนังเพิ่มเติม จึงมีความจำเป็นต้องจัดสรรเงินลงทุนและรักษาสภาพคล่องเงินสดให้เพียงพอกับการดำเนินงานดัง
กล่าวอย่างเคร่งครัด เพื่อให้โครงการสามารถเดินตามแผนที่วางไว้โดยไม่สะดุด” นายภูวสิษฏ์กล่าว
ปัจจุบัน ธุรกิจหลักของ CPL สามารถแบ่งได้เป็น 3 ส่วน ได้แก่ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายหนังสำเร็จรูป (Finishing Product) ซึ่งมีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 68% ของรายได้รวม ธุรกิจรับจ้างฟอกหนัง มีสัดส่วนรายได้ในราว 5% ของรายได้รวม และธุรกิจผลิตและจำหน่ายรองเท้านิรภัยและอุปกรณ์นิรภัย ภายใต้แบรนด์ “แพงโกลิน” ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 27% ของรายได้รวม
ทั้งนี้ CPL มีแผนขยายกำลังการผลิตหนังสำเร็จรูป เพิ่มเป็น 120,000 ตัวต่อเดือนหรือเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว จากกำลังการผลิตเดิมที่ 45,000 ตัว หรือ 2.5 ล้านตารางฟุตต่อเดือน ภายในระยะเวลา 2 ปี ส่วนธุรกิจรับจ้างฟอก ในปีนี้บริษัทฯ เห็นว่า ตลาดฟอกหนังในประเทศไทยกำลังเป็นกระแสที่มาแรง ทำให้บริษัทฯ ได้ลงทุนเพิ่มเครื่องจักรเพื่อขยายกำลังการผลิต ซึ่งเมื่อติดตั้งเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว จะสามารถเดินหน้าทำการผลิตในส่วนของการรับจ้างฟอกหนังวัวได้มากขึ้น 2 เท่าจากกำลังการผลิตปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่ 15,000 ตัวต่อสัปดาห์ เช่นเดียวกับการรับจ้างฟอกหนังหมู ซึ่งบริษัทฯ ได้สร้างโรงงานใหม่ เพื่อทำการรับจ้างฟอกหนังหมู ซึ่งกำลังการผลิต 100% จะอยู่ที่ 100,000 ตัวต่อเดือน โดยปัจจุบันดำเนินการได้ 50% หรือประมาณ 50,000 ตัวต่อเดือน