xs
xsm
sm
md
lg

ซีลิคอวด งบ Q4 ปี 60 เติบโตกว่า 14%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ซีลิค เผย Q4/60 รายได้ขาย 157.71 ล้านบาท เติบโต 13.6% จากไตรมาส 4/59 ที่ 138.77 ล้านบาท หนุนทั้งปี 60 โกยรายได้ 595 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.44% จากปี 59 มีรายได้ 560.79 ล้านบาท หลังรายได้ต่างประเทศ CMV เติบโตตามแนวทางที่วางไว้ พร้อมทำสัญญาซื้อขายแบบกำหนดราคาคงที่ระยะยาว ช่วยประหยัดต้นทุน-ให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น แถมใจป้ำจ่ายปันผลงวดปี 60 อัตรา 0.027 บาท กำหนดจ่ายเงินปันผล 26 เม.ย. 61 

นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) SELIC เปิดเผยว่า บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/60 ( ต.ค.-ธ.ค. 2560) มีรายได้จากการขาย 157.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.6% จากไตรมาส 4/59 ที่ได้ 138.77 ล้านบาท และยังเป็นเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/60 ราว 2.9% เนื่องจากบริษัทขยายตัวสู่ตลาดต่างประเทศ โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายในต่างประเทศ จำนวน 74.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.42% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/60 ส่วนใหญ่มาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น ของผลิตภัณฑ์กาวในกลุ่มผลิตภัณฑ์กาวหลอมร้อน (Hot Melt) และกลุ่มผลิตภัณฑ์กาวน้ำ โดยเป็นไปตามแนวโน้มความต้องการใช้งานของอุตสาหกรรมโลก

ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2560 (ม.ค.-ธ.ค. 2560) บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 595 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.44% จากปี 2559 มีรายได้อยู่ที่ 560.79 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้มาจากการขายที่เพิ่มขึ้นของการขายต่างประเทศเป็นหลัก โดยเป็นผลมาจากการเจาะตลาดต่างประเทศตามแนวทางที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 มีการเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยเหตุนี้บริษัทฯ จึงได้มีการมองหาผู้จัดจำหน่ายรายใหม่หลายแห่ง และคาดว่าจะทำการต่อรองราคาและส่วนลด เพื่อช่วยประหยัดต้นทุนมากกว่า และให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพของสินค้า

นอกจากนี้ บริษัทฯ พิจารณาการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นจากกำไรสุทธิ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 ในอัตราหุ้นละ 0.027 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 7.56 ล้านบาท โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้นในการรับเงินปันผลในวันที่ 19 เมษายน 2561 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 26 เมษายน 2561

“รายได้ของเราปีนี้เติบโตได้ตามที่เราได้เคยให้ข้อมูลเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว และก็เห็นได้ชัดว่า ยอดขายต่างประเทศที่เราเคย ประกาศจะบุก CMV และออสเตรเลีย ก็มีการเติบโตที่ชัดเจนมาก ยอดขายต่างประเทศจึงเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน” นายเอก กล่าว

นายเอก กล่าวเพิ่มว่า ปี 2560 ที่ผ่านมา บริษัทได้กำหนดทิศทางกลุ่มประเทศเป้าหมายการขยายตลาด CMV (กัมพูชา พม่า และเวียดนาม) โดยผลการดำเนินการสามารถขยายตลาดต่างประเทศได้ดี โดยสัดส่วนรายได้จากการขายต่างประเทศที่เติบโตขึ้นอย่างได้ชัดในรอบปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โดยรายได้จากการขายปี 2560 อยู่ที่ 592.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.4% จากปี 2559 โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายต่างประเทศอยู่ที่ 260.57 ล้านบาท ในปี 2560 เพิ่มขึ้น 13.49% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการขยายตลาด CMV และตลาดออสเตรเลีย ส่วนรายได้จากการขายภายในประเทศ บริษัทฯ ไม่หยุดที่จะเดินหน้าในการขยายธุรกิจใหม่ ๆ ภายในประเทศ ขณะที่ยังคงรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้เช่นกัน

นายเอก กล่าวทิ้งท้ายว่า แนวโน้มธุรกิจปี 2561 จะมุ่งเน้นการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในอุตสาหกรรมบรรจุหีบห่อ อาหารและเครื่องดื่ม รวมไปถึงกลุ่มรองเท้าและเครื่องหนังอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากนี้จะเน้นการเจาะตลาดอุตสาหกรรมอื่นอย่างจริงจัง โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ หรือกลุ่มก่อสร้าง ซึ่งล้วนแต่มีการเติบโตส่งผลให้ความต้องการใช้กาวอุตสาหกรรมสูงขึ้นด้วย อีกทั้งยังคงมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรภายในอย่างต่อเนื่องจากที่ได้วางรากฐานไว้

นายเอก กล่าวเพิ่มว่า ในปีที่แล้ว เพื่อรองรับการทำตลาดให้บรรลุผลสำเร็จตามความคาดหมาย ซึ่งจากการศึกษาความต้องการใช้กาวอุตสาหกรรมของตลาดโลก ตลาดมีความต้องการสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และด้านอุตสาหกรรมที่รองรับความต้องการดังกล่าว ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมบรรจุหีบห่อ อาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่บริษัทสามารถครอบครองส่วนแบ่งได้ค่อนข้างดี


กำลังโหลดความคิดเห็น