xs
xsm
sm
md
lg

“ราชาเฟอร์รี่” เผยปี 60 มีรายได้รวม 687 ล้านบาท ตั้งเป้าปี 61 โต 10%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) หรือ RP
“ท่าเรือราชาเฟอร์รี่” แจงผลประกอบการปี 2560 มีรายได้รวม 687 ล้านบาท โดยปีนี้จะเน้นการลงทุนด้านเทคโนโลยี เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างครบวงจร และมีแผนเพิ่มเรืออีก 2 ลำ คาดผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 60 มีรายได้โตไม่น้อยกว่าร้อยละ 10

นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) หรือ RP เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริษัทว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทไตรมาสที่ 4 (ตุลาคม-ธันวาคม) มีรายได้ 161 ล้านบาท ทำให้ปี 2560 มีรายได้รวม 687 ล้านบาท โดยปีที่ผ่านมา บริษัทได้ลงทุนเพิ่มทั้งการซื้อเรือใหม่ 1 ลำ และการปรับปรุงระบบบริการหลายด้าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้อย่างครบวงจร ทั้งการจองตั๋วรถร่วมขนส่งระหว่างเส้นทาง การขายตั๋วเรือเชื่อมโยงกับการเดินทางไปยังสถานีขนส่งรถประจำทาง สถานีรถไฟ และสนามบิน อีกทั้งได้ลงทุนงบประมาณสำหรับการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพเรือให้ทันสมัย และสะดวกสบายเพิ่มขึ้น

“แม้ผลประกอบการจะไม่เติบโตแบบก้าวกระโดด แต่ก็เป็นในไปทิศทางที่เราพอใจ เนื่องจากเป็นไปตามแผนงานที่เราวางไว้ โดยในปีที่แล้ว บริษัทมีต้นทุนเพิ่มขึ้น ทั้งจากการซื้อเรือเฟอร์รี่ และงบประมาณสำหรับใช้ปรับปรุงเรือ ซึ่งได้ทยอยทำอยู่ในขณะนี้ ประกอบกับก่อนหน้านี้จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะสมุย ประสบปัญหาน้ำท่วมหลายครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อกิจการเดินเรือ นอกจากนี้ ยังได้นำกำไรส่วนหนึ่งไปชำระหนี้ และอีกส่วนนำมาลงทุนในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อให้มีความทันสมัยมากขึ้น”

สำหรับแผนธุรกิจปี 2561 นี้ บริษัทฯ จะมุ่งเน้นลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์จีน ที่ให้ความสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะสมุย และเกาะพะงัน มากขึ้น พร้อมมีแผนที่จะซื้อเรือเฟอร์รี่เพิ่มเติมอีกจำนวน 2 ลำ ซึ่งจะทำให้มีกองเรือให้บริการมากที่สุดถึง 16 ลำ นอกจากนี้ จะปรับปรุงเรือใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น และเตรียมขยายท่าเทียบเรือฝั่งดอนสัก เพิ่มอีก 2 ท่า พร้อมเดินหน้าพัฒนาบริการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นนำเทคโนโลยีมาผสมผสานกับบริการ รวมถึงติดตั้งตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติมาให้บริการแทนการซื้อตั๋วจากพนักงาน ดังนั้น ในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 จะเป็นช่วงเวลาที่เห็นความเปลี่ยนแปลงของการลงทุนที่บริษัทดำเนินไปก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ธุรกิจเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10


กำลังโหลดความคิดเห็น