xs
xsm
sm
md
lg

การบินกรุงเทพ โกยรายได้กว่า 2.8 หมื่น ล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


การบินกรุงเทพ เผยปี 60 อวดรายได้รวม 28,493.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% และมีผลกำไรสุทธิ 846.4 ล้านบาท ขณะมีกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้น 787.9 ล้านบาท ผลดีจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น 5.944 ล้านคน หรือ 68.5%

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2560 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวม 28,493.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5 และมีผลกำไรสุทธิ 846.4 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เท่ากับ 787.9 ล้านบาท และกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.38 บาทต่อหุ้น อัตราการเติบโตของผู้โดยสารปี 2560 เท่ากับร้อยละ 5 โดยมีจำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 5.944 ล้านคน อัตราการบรรทุกผู้โดยสารอยู่ที่ร้อยละ 68.5 บริษัทฯ วางเป้าในปี 2561 รายได้จะเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 และอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยร้อยละ 70

และในปี 2560 ที่ผ่านมา บางกอกแอร์เวย์ส ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจากหลากหลายสถาบัน และหนึ่งในความภูมิใจ คือ รางวัลสกายแทรกซ์อวอร์ด 2017 ในฐานะที่เป็นสายการบินระดับภูมิภาคยอดเยี่ยมของโลกและสายการบินระดับภูมิภาคยอดเยี่ยมของเอเชีย และปี 2561 นี้เรายังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวก และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้โดยสาร และได้นำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเสริมการให้บริการ อาทิ การเปิดให้บริการห้องรับรองผู้โดยสารระหว่างประเทศแห่งใหม่ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่มีความทันสมัย กว้างขวาง และมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น การเปิดตัวบางกอกแอร์เวย์สโมบายแอปพลิเคชัน เวอร์ชันล่าสุด 3.0.0 ซึ่งให้บริการผู้โดยสารตั้งแต่ขั้นตอนการสำรองที่นั่ง โดยสามารถเลือกที่นั่งและความต้องการพิเศษต่าง ๆ ได้ เช่น การเลือกประเภทอาหาร ประกันภัยการเดินทาง ตลอดจนสามารถตรวจสอบตารางบิน รวมถึงเช็กอินออนไลน์ได้ผ่านทางแอปพลิเคชันบนมือถือสมาร์ทโฟน

แผนการเปิดเส้นทางบินใหม่ในปี 2561 นี้ บริษัทฯ ยังคงเน้นการขยายโครงข่ายเส้นทางการบินให้ครอบคลุมเมืองสำคัญทางธุรกิจหรือแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในภูมิภาคเอเชีย และตอบสนองความต้องการของผู้โดยสาร และสายการบินพันธมิตร โดยใช้กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) เกาะสมุย และเชียงใหม่ เป็นศูนย์กลางทางการบิน โดยเส้นทางบินที่จะเปิดให้บริการในปีนี้ ได้แก่ เชียงใหม่-ฮานอย (เวียดนาม) ที่จะเปิดให้บริการในวันที่ 25 มีนาคม ศกนี้ และเส้นทางภูเก็ต-ย่างกุ้ง (พม่า) ที่จะเปิดให้บริการในช่วงปลายปี สำหรับเส้นทางสมุย บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดให้บริการแบบเช่าเหมาลำในช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว ในเส้นทางบินระหว่างเกาะสมุยกับเมืองสำคัญของประเทศจีน อาทิ สมุย-ซีอาน และสมุย-ฉางซา

นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินในเส้นทางบินที่ได้รับความนิยมทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้แก่ เส้นทางบินไป-กลับกรุงเทพ-ภูเก็ต เพิ่มเป็น 66 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เส้นทางบินไป-กลับ กรุงเทพ-เวียงจันทน์ (ลาว) เพิ่มเป็น 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และเส้นทางบินไป-กลับกรุงเทพฯ-มัณฑะเลย์ (พม่า) เพิ่มเป็น 11 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

การเพิ่มเครือข่ายพันธมิตรทางการบินผ่านการทำข้อตกลงเที่ยวบินร่วม (Codeshare Agreement) กับสายการบินชั้นนำ ในปี 2560 บริษัทฯ ได้ทำข้อตกลงเที่ยวบินร่วมกับสายการบินชั้นนำ จำนวน 4 สาย อาทิ เซี๊ยะเหมินแอร์ไลน์, ฮ่องกงแอร์ไลน์, การบินไทย, เวียดนามแอร์ไลน์ และล่าสุด เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ บริษัทฯ มีการทำข้อตกลงเที่ยวบินร่วมกับสายการบินแอล อัล อิสราเอลแอร์ไลน์ ของประเทศอิสราเอล ซึ่งทำให้ ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีข้อตกลงเที่ยวบินร่วมกับ 24 สายการบิน และจะมีการลงนามข้อตกลงเที่ยวบินร่วมกับสายการบินเพิ่มเติมอีก 4-6 สายการบิน

ด้านการเพิ่มฝูงบิน ปัจจุบัน บริษัทฯ มีเครื่องบินในฝูงบิน จำนวน 38 ลำ โดยมีแผนที่จะรับมอบเครื่องบินแบบแอร์บัส จำนวน 2 ลำ และจะปรับเปลี่ยนฝูงบินเครื่องบินแบบเอทีอาร์ โดยจะทำการปลดระวาง เครื่องบินแบบเอทีอาร์ 72-500 ในปีนี้จำนวน 4 ลำ และต้นปีหน้าอีกจำนวน 2 ลำ และรับมอบเครื่องบินแบบเอทีอาร์ 72-600 อีกจำนวน 2 ลำ ซึ่งจะทำให้ในปี 2561 บริษัทฯ มีจำนวนเครื่องบินรวมทั้งสิ้น 38 ลำ

ในส่วนการขยายธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนธุรกิจการบิน อาทิ การสร้างโรงซ่อมอากาศยานสุโขทัย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการออกแบบ และจัดเตรียมพื้นที่ ซึ่งเมื่อก่อสร้างเสร็จจะสามารถรองรับการตรวจซ่อมอากาศยานได้ถึงระดับ C-Check สำหรับธุรกิจครัวการบิน บางกอกแอร์เคเทอริ่ง จำกัด (Bangkok Air Catering) หรือ BAC ปัจจุบันมีลูกค้า จำนวน 24 สายการบิน โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดให้บริการครัวการบินกรุงเทพ สาขาสนามบินภูเก็ต และธุรกิจอาหารแปรรูปภายใต้แบรนด์ กูร์เมท์พรีโม่ (Gourmet Primo) และบริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดครัวการบินเพิ่มเติมอีก 1 แห่ง คือ ครัวการบินกรุงเทพ สาขาสนามบินเชียงใหม่ ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี 2562 สำหรับธุรกิจบริการภาคพื้นของบริษัทบางกอกไฟลต์เซอร์วิสเซส จำกัด (Bangkok Flight Services) ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้ากว่า 74 สายการบิน และคาดว่าภายในปีนี้จะมีลูกค้าสายการบินเพิ่มอีก 4 สาย และธุรกิจสถานีพักสินค้า (BFS Cargo) ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนลูกค้ากว่า 67 สายการบิน และคาดว่าภายในปีนี้จะมีลูกค้าสายการบินเพิ่มอีก 4 สาย

“สำหรับโครงการความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นให้การสนับสนุนและมีส่วนร่วมในการให้บริการและบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นพันธกิจหลักควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจ และเพื่อให้การดำเนินงานดังกล่าว มีประสิทธิภาพและมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัทฯ จึงมุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนรอบสนามบินทั้ง 3 แห่ง คือ สนามบินสมุย สนามบินตราด และสนามบินสุโขทัย ตลอดจนจุดหมายปลายทางที่บริษัทฯ ทำการบินไป โดยเข้าไปสร้างความสัมพันธ์กับคนในท้องถิ่น ในรูปแบบการสร้างเครือข่ายและการจัดการด้านความรู้ในชุมชน การสร้างจิตสำนึกสาธารณะ การร่วมกับชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม เป็นต้น” นายพุฒิพงศ์ กล่าวเสริม

นายพรต เสตสุวรรณ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายการตลาด เผยถึงแผนการตลาดปี 2561 ว่า ในปีนี้บางกอกแอร์เวย์ส ดำเนินธุรกิจด้านการบินมาครบรอบ 50 ปี เราจะเน้นการสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางขึ้น มีความใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อสร้างความผูกพัน รวมทั้งเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ และสร้างการรับรู้การให้บริการของบางกอกแอร์เวย์ส ในฐานะสายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบ (Full Service Airline) ตามสโลแกน เอเชียบูทีคแอร์ไลน์ (Asia’s Boutique Airline) หรือความประทับใจแห่งเอเชีย จะมีบทเพลงพิเศษที่แต่งขึ้นและขับร้องโดยศิลปินที่มีชื่อเสียง และมีภาพยนตร์โฆษณาชุดพิเศษที่ผู้โดยสารของเราเล่าประสบการณ์และส่งต่อความประทับใจในการเดินทางกับบางกอกแอร์เวย์ส นอกจากนี้ สายการบินฯ จะจับมือกับ 2 แบรนด์ระดับโลก เพื่อสร้างแบรนด์บางกอกแอร์เวย์สให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในระดับสากลอีกด้วย

“และตลอดทั้งปี 2561 สายการบินฯ จะมีกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น อาทิ บางกอกแอร์เวย์สบูทีคซีรี่ย์ (Bangkok Airways Boutique Series) รายการแข่งขันวิ่งมาราธอนใน 7 เส้นทางบินของสายการบินฯ ได้แก่ ตราด, ลำปาง, สุโขทัย, เชียงใหม่, เชียงราย, สมุย และกระบี่ การสนับสนุนรายการแข่งขันชกมวยไทยไฟต์ (Thai Fight) การสนับสนุนทีมฟุตบอลอาชีพในประเทศไทยเพิ่มเติมอีก 2 ทีม คือ สมุยซิตี้เอฟซี และเชียงรายซิตี้เอฟซี ทำให้ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ให้การสนับสนุนทีมฟุตบอลอาชีพรวมทั้งสิ้น 9 ทีม (เชียงรายยูไนเต็ด, เชียงใหม่เอฟซี, กระบี่เอฟซี, ลำปางเอฟซี, สุโขทัยเอฟซี, ตราดเอฟซี, และเกษตรศาสตร์เอฟซี) นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ งานตรุษจีนย้อนอดีตที่ภูเก็ต งานอินเตอร์เนชั่นแนล บอลลูน เฟียสต้า 2561 ที่เชียงราย, งานพระจันทร์หลากสีที่เกาะพงัน งานสงกรานต์ ที่เชียงใหม่ และมีแผนจัดเทศกาลดนตรีนานาชาติที่เกาะสมุย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเข้าสู่เกาะสมุยในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวอีกด้วย

สำหรับตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV สายการบินฯ จะเน้นการลงโฆษณาส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นให้นักเดินทางจากกลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล อาทิ สมุย, ภูเก็ต, กระบี่ และตราด โดยใช้เครือข่ายเส้นทางบินของบางกอกแอร์เวย์ส นอกจากนี้ เรายังมีแผนที่จะยกระดับความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐที่ทำงานด้านส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอินโดจีน จัดทำแคมเปญด้านการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวระหว่างภูมิภาคมากขึ้น

สำหรับแผนการตลาดในทวีปยุโรป สายการบินฯ มีการทำความร่วมมือกับสายการบินพันธมิตรหลายสายการบิน ในการออกแคมเปญ Five Unseen Paradises เพื่อกระตุ้นให้ผู้โดยสารชาวยุโรปเดินทางไปท่องเที่ยวยัง 5 แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่บางกอกแอร์เวย์สให้บริการ คือ ตราด, สุโขทัย, เชียงราย, ลำปาง และดานัง (เวียดนาม) นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาความร่วมมือทางการตลาดกับทีมสโมสรฟุตบอลชั้นนำของยุโรปในการเป็นพันธมิตรการบินระดับภูมิภาค (Regional Airline Partner) โดยความร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของบางกอกแอร์เวย์สในระดับสากลแล้ว ยังจะช่วยทำให้สายการบินฯ สร้างฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอีกด้วย

“สำหรับแผนการขยายกลุ่มลูกค้าและเพิ่มจำนวนลูกค้า บริษัทฯ จะมีแคมเปญที่ออกแบบมาเฉพาะกลุ่ม อาทิ แคมเปญ U Fare By Bangkok Airways บัตรโดยสารราคาพิเศษ เพื่อจูงใจให้กลุ่มนิสิตนักศึกษา และอาจารย์มหาวิทยาลัย มาลองใช้บริการของบางกอกแอร์เวย์ส โดยแคมเปญนี้เป็นแคมเปญที่ต่อยอดมาจากปีที่แล้ว และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยปีนี้มีการพัฒนาระบบให้สามารถดำเนินการสำรองที่นั่งผ่านเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น โดยผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bangkokairways.com/ufare และจะเน้นกระตุ้นแคมเปญ Resident Card อย่างต่อเนื่อง สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัด หรือพื้นที่ใกล้เคียงสนามบินทั้ง 3 แห่งของบางกอกแอร์เวย์ส คือ เกาะสมุย สุโขทัย และตราด ที่มอบสิทธิประโยชน์ในการซื้อบัตรโดยสารของสายการบินฯ ในราคาพิเศษ

“สายการบินฯ ยังมีแผนในการรักษากลุ่มลูกค้าเดิม โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าสมาชิกรายการสะสมคะแนนฟลายเออร์โบนัสของสายการบินฯ ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดทั้งปี อาทิ กิจกรรม Exclusive Trip ที่นำสมาชิกฯ ประเภทพรีเมียร์เดินทางไปท่องเที่ยวยังจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมแบบเอ็กซ์คลูซีฟ กิจกรรม Exclusive Concert เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญต่อการตอบแทนสมาชิกฯ โดยจะร่วมมือกับพันธมิตรทางการค้าหรือสายการบินคู่ค้าของรายการสะสมคะแนนฟลายเออร์โบนัส ในการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิก อาทิ การใช้คะแนนแลกของรางวัลต่าง ๆ เพื่อให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น” นายพรต กล่าวเสริม

นายวรงค์ อิศรเสนา ณ อยุธยา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายขาย เปิดเผยถึงแผนการขายปี 2561 ว่า ในปีนี้ สายการบินฯ จะมุ่งเน้นการกระตุ้นการขายในกลุ่มประเทศ CMLV คือ กัมพูชา พม่า ลาว และเวียดนาม ซึ่งจะเป็นตลาดคนท้องถิ่นในประเทศ หรือนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังประเทศในกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มตลาดที่มีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจที่ดี มีจำนวนของผู้โดยสารที่เดินทางเพื่อท่องเที่ยวและธุรกิจเพิ่มมากขึ้น และมีกำลังซื้อมากขึ้น โดยปัจจุบัน บางกอกแอร์เวย์ส มีให้บริการเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ไปสู่ประเทศในกลุ่ม CLMV กว่าวันละ 40 เที่ยวบิน และยังมีแผนที่จะเพิ่มเที่ยวบิน หรือเส้นทางบินเชื่อมต่อเพิ่ม เพื่อรองรับความต้องการในการเดินทางที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นการขายในตลาดนี้ สายการบินฯ ได้ออกโปรโมชั่น “Go Samui” บัตรโดยสาราคาพิเศษแบบราคาเดียว (through-fare)

สำหรับผู้โดยสารในกลุ่มประเทศ CLMV ที่จะสามารถเดินทางจากประเทศต้นทางมาท่องเที่ยวที่เกาะสมุยได้ในราคาเดียว ซึ่งทางสายการบินฯ มองเห็นว่า โปรโมชั่นบัตรโดยสารนี้จะสร้างความน่าสนใจให้กับนักเดินทางเป็นอย่างมาก และมีแผนที่จะทำโปรโมชั่นนี้ในเส้นทางอื่น ๆ ของสายการบินฯ เพิ่มขึ้น อาทิ ตราด, สุโขทัย, เชียงใหม่, และเชียงราย เป็นต้น

นอกเหนือจากกลุ่มประเทศดังกล่าวแล้ว สายการบินฯ ยังให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าจากประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าจากเมืองเศรษฐกิจ อาทิ ฮ่องกง, กวางโจว, เฉินตู, ฉงชิ่ง ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีกำลังในการซื้อสูง โดยปัจจุบัน บริษัทให้บริการเที่ยวบินตรงระหว่างสมุย-ฮ่องกง, สมุย-เฉินตู, สมุย-กวางโจว, สมุย-ฉงชิ่ง และมีแผนที่จะขยายเส้นทางบินโดยการเปิให้บริการเที่ยวบินแบบเหมาลำจากสมุยไปยังเมืองสำคัญต่าง ๆ ในประเทศจีนเพิ่มมากขึ้น อาทิ ซีอาน และฉางซา นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา สายการบินฯ ได้มีการทำความร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยวชั้นนำของประเทศจีน ในการขายแพกเกจท่องเที่ยว และบัตรโดยสารเครื่องบินอีกด้วย

ในปี 2561 นี้ สายการบินฯ ตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขายผ่านบริษัทนำเที่ยวออนไลน์ (Online Travel Agent) มากขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ โดยล่าสุด สายการบินฯ ได้มีการลงนามความร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัท เอ็กซ์พีเดีย (Expedia) ซึ่งถือเป็นบริษัทนำเที่ยวออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยให้สายการบินฯ สามารถเสนอช่องทางในการจองบัตรโดยสารได้หลากหลายมากขึ้นผ่านทางแพลตฟอร์มของเอ็กซ์พีเดีย รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับบางกอกแอร์เวย์สให้สามารถเข้าถึงลูกค้าจากทั่วโลกได้อีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาลงนามความร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัทนำเที่ยวออนไลน์รายใหญ่ของโลกเพิ่มเติม รวมถึงมีแผนที่จะร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยวออนไลน์ในประเทศต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักเพื่อเพิ่มช่องทางการขายบัตรโดยสารของสายการบินฯ อีกด้วย อาทิ ประเทศสเปน ประเทศรัสเซีย เป็นต้น

“นอกจากนี้ สายการบินฯ ยังคงให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าในตลาดอเมริกา แอฟริกาใต้ และยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษารัสเซียเป็นหลัก อาทิ ประเทศรัสเซีย ประเทศคาซัสสถาน และประเทศอุซเบกิซสถาน ที่เศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้กำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูงและมีความสนใจในการเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง บริษัทฯ จึงได้ทำการแต่งตั้งตัวแทนการขายในประเทศต่างๆ เหล่านี้ และมีแผนที่จะเข้าร่วมงานเทรดโชว์ (Tradeshow) ที่สำคัญๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายเพิ่มขึ้นอีกด้วย

“สำหรับแผนการขายในประเทศ สายการบินฯ มีแผนที่จะเจาะกลุ่มตลาดนักเดินทางเพื่อธุรกิจ (Corporate Travel) และกลุ่มลูกค้าส่วนภาครัฐเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีอัตราการเดินทางที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มตลาดเหล่านี้ เพราะการบริการของบางกอกแอร์เวย์สตอบสนองการเดินทางของลูกค้ากลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังจะมีการออกโปรโมชั่นต่างๆ รวมทั้งการร่วมออกบูธจำหน่ายบัตรโดยสาร เพื่อกระตุ้นให้เกิดการขายล่วงหน้ามากขึ้น เช่น งานเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก งานไทยเที่ยวไทย และงานท้าเที่ยวไทยไปสมุย เป็นต้น” นายวรงค์ กล่าวเสริม


กำลังโหลดความคิดเห็น