xs
xsm
sm
md
lg

เอสซีไอฯ จ่อคว้างานใหญ่ทั้งใน-นอก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอสซีไอ อีเลคตริค จ่อคว้างานใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ ดันธุรกิจเข้าสู่ปีทอง บิ๊กบอส “เกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล” โชว์งานในมือกว่า 400 ล้านบาท จ่อเข้าประมูลงานใหม่ของภาครัฐ-เอกชนเพียบ ขณะที่โรงงานเสาส่งในพม่า คาดเริ่มเดินเครื่องการผลิตช่วงต้น Q3/61 นี้ แย้มเตรียมจับมือกับพันธมิตรท้องถิ่น และจีน เข้าร่วมพัฒนาและประมูลงานสายส่งในพม่า

นายเกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) หรือ SCI เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทฯ ยังคงมองหาลู่ทางขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อขยายฐานรายได้ให้กับบริษัทฯ โดยในส่วนของการลงทุนในประเทศปีนี้จะมีการลงทุนของบริษัทร่วมทุน คือ บริษัท ทียูทิลิตี้ส์ จำกัด หรือ TU ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุนระหว่าง SCI และบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF โดย SCI ถือหุ้น 45% เพื่อลงทุนในพลังงานทดแทน และสาธารณูปโภคต่าง ๆ

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา TU มีเป้าหมายรับงานโซลาร์รูฟบนหลังคาโรงงานอุตสาหกรรมขนาดกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ ซึ่งได้มีการจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว ขนาดกำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ ที่เหลือคาดว่าจะทยอยติดตั้งแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ส่วนโครงการอื่น ๆ ยังคงอยู่ในขั้นตอนศึกษาความเป็นไปได้ โดยน่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้

สำหรับแผนการดำเนินงานในส่วนของธุรกิจเสาและสวิตซ์บอร์ดในปี 2561 นายเกรียงไกร กล่าวว่า คาดว่ายังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในขณะนี้บริษัทฯ พยายามจะขยายตลาดไปยังพม่า ซึ่งรวมถึงงานรับเหมา EPC เช่นกัน หากได้งานที่พม่า ก็จะช่วยเสริมสร้างรายได้และกำไรให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในส่วนของรายได้ที่มาจากต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นการขยายฐานรายได้ และกระจายความเสี่ยงธุรกิจ โดยปัจจุบันมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้จากในประเทศ (Backlog) ประมาณ 400 ล้านบาท แบ่งเป็นงานเสาของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ประมาณ 300 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นงานสวิตซ์บอร์ด

ส่วนความคืบหน้าการลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตเสาส่งแรงสูงและเสาสื่อสารโทรคมนาคมและชุบกัลป์วาไนซ์ที่พม่า คาดว่าจะสามารถเริ่มเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 3/61 เพื่อขายประเทศพม่า ซึ่งจะเริ่มรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/61 เป็นต้นไป

“ตลาดเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงในเมียนมามีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายเร่งขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจ อีกทั้งภาคเอกชนก็เร่งขยายเครือข่ายโทรคมนาคมให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ นอกจากนี้ เราได้จับมือกับพันธมิตรในเมียนมา และจีน เพื่อพัฒนาโครงการสายส่งร่วมกัน ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ เราอยากจะรับงาน EPC เหมือนที่ สปป.ลาว โดยเรามุ่งหมายจะเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้รับเหมาในเมียนมา ซึ่งทั้ง 2 ธุรกิจนี้จะช่วยส่งเสริมกันและกัน

ส่วนผลการดำเนินงานในปี 2560 (มกราคม-ธันวาคม 2560) บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 1,678.29 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 19.96 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น