xs
xsm
sm
md
lg

“ธนพิริยะ” อวดปี 60 รายได้ 1.6 พัน ล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ธนพิริยะ” อวดผลงานปี 60 รายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 1,597.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.32% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 61.29 ล้านบาท หรือโต 10.12% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลจากรับรู้รายได้สาขาเก่า และสาขาใหม่ หนุนโค้งสุดท้ายของปีคึกคักรับไฮซีซันธุรกิจ แถมอานิสงส์การติดตั้งเครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บอร์ดบริษัทฯ ไฟเขียว จ่ายปันผลงวดครึ่งปีหลังอีก 0.015 บาท ตั้งเป้ารายได้ปี 61 โตอีก 10-15% เตรียมขยายเพิ่มอีก 5 สาขา

นายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึงผลประกอบการบริษัทฯ งวดปี 2560 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560) มีรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 1,597.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 149.51 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.32 ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขยายสาขาใหม่ของบริษัทฯ ขณะที่รายได้จากสาขาเก่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเกิดจากยอดซื้อต่อบิลที่เพิ่มขึ้น

ส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 212.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน 28.47 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15.45 และอัตรากำไรขั้นต้นที่ร้อยละ 13.32 เป็นผลจากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าการขายส่ง และได้รับค่าสนับสนุนการขายจากผู้จำหน่าย ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 61.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 5.63 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.12 และมีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 3.84

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสด จากผลประกอบการงวดครึ่งปีหลัง (วันที่ 1 กรกฎคม 2560-31 ธันวาคม 2560) ในอัตราหุ้นละ 0.015 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เมื่อรวมเงินปันผลระหว่างกาลที่บริษัทฯ ได้จ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นไปแล้วนั้น จะทำให้บริษัทฯ จ่ายปันผลจากผลประกอบการประจำปี 2560 รวมเป็นทั้งสิ้น 0.03 บาท คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 24,000,000 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นวันที่ 9 มีนาคม 2561 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 พร้อมทั้งกำหนดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 11 เมษายน 2561

“ผลงานปี 2560 เติบโตตามเป้าหมายรายได้ที่วางไว้กว่า 10% เป็นผลมาจากภาพรวมการจับจ่ายใช้สอยผู้บริโภคดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 4/2559 เป็นต้นมา ประกอบกับในปี 2560 บริษัทฯ เปิดสาขาใหม่จำนวน 4 สาขา ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งสาขาใหม่ดังกล่าวทยอยเปิดเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง และสนับสนุนผลงานไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจให้โดดเด่นสุด นอกจากนี้ ธนพิริยะ ได้ติดตั้งเครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 3 สาขา รองรับการใช้บัตรโครงการประชารัฐ สวัสดิการเพื่อให้ความช่วยเหลือกับผู้มีรายได้น้อย เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนผลงานปลายปี และมั่นใจว่า จะเติบโตต่อเนื่องในปี 2561 นี้ ทำนิวไฮอย่างต่อเนื่องได้” นายธวัชชัย กล่าว

ด้านเภสัชกรหญิง อมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกของ บริษัทฯ ในปี 2561 ตั้งเป้ารายได้จากการขายและการบริการเติบโตอีก 10-15% จากปีที่ผ่านมา ตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่มีทิศทางที่ดีขึ้น และเตรียมขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 5 สาขาในปี 2561 ซึ่งบริษัทฯ มีพื้นที่เตรียมรองรับไว้ทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ จะยังคงเน้นขยายสาขาเพิ่มในจังหวัดเชียงรายเป็นหลัก เพื่อสร้างแบรนด์ธนพิริยะให้แข็งแกร่ง ขณะเดียวกัน ยังคงขยายสาขาไปยังจังหวัดพะเยา เพิ่มอีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯ เน้นพัฒนาร้านค้าปลีกท้องถิ่นไทยให้แข็งแกร่งด้วยการสร้างมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา ทั้งการรุกขยายฐานลูกค้าไปในจังหวัดใกล้เคียง และจัดกิจกรรมการตลาด โปรโมชันสนับสนุนการขาย ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ดีที่สุด

สำหรับโครงการประชารัฐ สวัสดิการเพื่อให้ความช่วยเหลือกับผู้มีรายได้น้อย ธนพิริยะได้ทำการติดตั้งเครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พร้อมเปิดให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จำนวน 3 สาขา คือ สาขาบ้านดู่, สาขาเวียงปาเป้า และสาขาเทิง ส่วนสาขาอื่น ๆ อยู่ระหว่างพิจารณาการติดตั้งเครื่องรูดบัตรดังกล่าว รองรับประชากรในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีผู้ที่ได้รับบัตรสวัสดิการกว่า 300,000 คน

“เราเชื่อมั่นว่า ธนพิริยะในปี 61 จะมีทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง ตามภาพรวมเศรษฐกิจและนักท่องเที่ยวที่เริ่มหันมาเที่ยวใน จ.เชียงราย เพิ่มขึ้น พร้อมวางเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตอีก 10-15% จากปีก่อนหน้า จากสาขาเก่าที่เติบโต โดยเฉพาะการรับรู้รายได้จาก 4 สาขาใหม่ที่เปิดเพิ่มไปแล้วเมื่อปี 60 เข้ามาเต็มจำนวน และแผนการเปิดสาขาใหม่ในปีนี้อีก 5 สาขา ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2561 ธนพิริยะจะมีสาขารวมทั้งสิ้น 24 สาขา สนับสนุนรายได้จากการขายและการบริการให้เพิ่มขึ้น รวมทั้งอัตรากำไรขั้นต้นที่มีคุณภาพจากการขายผ่านสาขาสูงกว่ารายได้จากการขายส่ง โดยมีศูนย์กระจายสินค้าบนพื้นที่กว่า 10,000 ตร.ม. เป็นกุญแจสำคัญรองรับการกระจายสินค้า ด้วยระบบการจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ และลดระยะเวลาการขนส่งเป็นอย่างดี” เภสัชกรหญิง อมร กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น