หุ้นไทยปิดบวก 8.77 จุด กลับมายืนเหนือ 1,800 จุด เผยตลาดอยู่ระหว่างปรับตัวเพื่อให้เกิดสมดุลมากขึ้น โดยเลือกลงทุน Defensive stock ระหว่างรอปัจจัยใหม่หนุน
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว แต่มีความผันผวนแรงระหว่างวัน โดยตลาดซึมซับปัจจัยลบที่เข้ามากระทบทั้งอัตราเงินเฟ้อ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond yield) ของสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ตลาดหุ้นต่างประเทศปรับตัวลงแรงในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงตลาดหุ้นไทย
แต่การที่ตลาดหุ้นไทยยังไม่รีบาวนด์กลับขึ้นไป แม้ตลาดหุ้นต่างประเทศจะฟื่นตัวหลายวันแล้ว เนื่องจากนักลงทุนยังอยู่ระหว่างปรับต้นทุนรวมให้มีความสมดุลมากขึ้น และยังไม่มั่นใจต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยยังรอปัจจัยบวกใหม่เพื่อสนับสนุนทิศทางตลาดที่ชัดเจนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเข้ามาเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัวในหุ้นขนาดกลางและเล็ก รวมถึงหุ้นในกลุ่ม Defensive stock อย่างกลุ่มโรงพยาบาล และกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้ารุ่นเก่าอย่าง EGCO ที่ยังมี P/E ต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ราคาหุ้นปรับขึ้นไปมากจนมีค่า P/E ในระดับสูง อย่าง GPSC ที่เริ่มเห็นมีแรงขายออกมา โดยการเลือกลงทุนหุ้นรายตัวดังกล่าวเพื่อเป็นการพักเงินระยะสั้น รอความมั่นใจเพิ่มขึ้น ซึ่งในระหว่างนี้ก็อาจทำให้ภาพตลาดเป็นลักษณะของการเทรดดิ้ง ทำให้ตลาดไม่ปรับขึ้นไปมากในทำนองเดียวกันก็จะไม่ลงลึกมากระหว่างรอปัจจัยบวกใหม่เข้ามา
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดที่ระดับ 1,800.86 จุด เพิ่มขึ้น 8.77 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.49% มูลค่าการซื้อขาย 44,644.85 ล้านบาท
สำหรับภาพการลงทุนในวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนีจะยังเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกันกับช่วงที่ผ่านมา ที่อาจจะเห็นความผันผวนแรงได้ระหว่างวัน โดยยังต้องติดตามปัจจัยจากต่างประเทศ ทั้งการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ หากปรับตัวขึ้นแรงก็อาจจะทำให้มีโมเมนตัมมายังตลาดหุ้นไทยให้ปรับตัวขึ้นได้ด้วยเช่นกัน ตลอดจนติดตามทิศทางราคาน้ำมัน ส่วนภายในประเทศยังไม่มีปัจจัยเข้ามากระตุ้นมากนัก ขณะที่วอลุ่มซื้อขายอาจจะเบาบางไปในช่วงตรุษจีน โดยมองแนวต้านบริเวณ 1,805 และ 1,820 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,785 จุด