บล. ฟินันเซีย ไซรัส รุกส่วนแบ่งตลาดโบรกเกอร์ ตั้งเป้าขึ้นแท่นอันดับ 1 ออนไลน์เทรด ผนึกกำลังพันธมิตรจากประเทศเกาหลีใต้ ร่วมพัฒนาแอปพลิเคชันช่วยลงทุนในหุ้น หวังสร้างฐานบัญชีลูกค้าใหม่ พร้อมประเมินภาพรวมดัชนีหุ้นไทยปี 2561 พุ่งทะยานทะลุ 1,900 จุด
นายช่วงชัย นะวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. ฟินันเซีย ไซรัส หรือ FSS เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ามาร์เกตแชร์ในภาพรวมธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์จะเติบโตไม่น้อยกว่า 6% จากปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 5% ขณะที่ในส่วนของกลุ่มลูกค้าที่นิยมการซื้อขายหุ้นออนไลน์ ตั้งเป้าว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 10% จากปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 7.4% โดยเฉพาะการให้นักลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านออนไลน์ จากแนวโน้มการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต และความนิยมของสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ สำหรับภาพรวมการซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์ปี 2560 พบว่ามีสัดส่วนออนไลน์สูงถึง 68% ของมูลค่าการซื้อขายของนักลงทุนบุคคลทั้งหมด และกว่า 60% เป็นการซื้อขายผ่านทางมือถือ ขณะที่สัดส่วนการซื้อขายผ่าน PC อยู่ที่ 40% และมีแนวโน้มลดลง โดยในปีนี้ตั้งเป้าว่าจะมีบัญชีออนไลน์ที่เข้ามาเปิดใหม่ไม่น้อยกว่า 100,000 บัญชี โดยในปัจจุบัน ยอดบัญชีออนไลน์ของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 50,000 กว่าบัญชี
นอกจากนี้ ในส่วนของบริษัทจดทะเบียนใหม่ที่จะเข้าระดมทุนซื้อขายหุ้นครั้งแรกแก่ประชาชนทั่วไป หรือ IPO ในตลาดหลักทรัพย์นั้น บริษัทจะเน้นคัดสรรหุ้นที่มีคุณภาพในการเข้าไปจดทะเบียน และในการเลือกลงทุนแก่นักลงทุนทั่วไป ตลอดจนถึงการขยายตลาดใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ การเพิ่มวงเงิน Block Trade เพื่อรองรับปริมาณธุรกรรมที่มากขึ้น และการขยายตลาดต่างประเทศที่จะเป้นทางเลือกในการลงทุนและกระจายความเสี่ยงของนักลงทุนไทยไปยังกลุ่ม CLMV โดยเฉพาะในตลาดเวียดนาม
“บริษัทเตรียมที่จะเปิดตัวบริการ One stop Service ที่รวมศูนย์ให้บริการ การเปิดบัญชีและการยืนยันตัวตนผ่านออนไลน์ การทำ Single Sign-on ที่รองรับทั้ง SBL/IPO/MIS รวมทั้งการเข้าระบบ Settrade/eFintrade/iFis Internet และ Supporting tools อื่นๆ เช่น Aspen/efinanceThai เพื่อความสะดวกสบาย รวมถึงยกเลิกการคิดค่าคอมมิชชันขั้นต่ำ เพื่อให้รองรับลูกค้าอินเทอร์เน็ต ซึ่งการเน้นให้บริการด้านออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นนั้น เพื่อรองรับความต้องการและไลฟ์สไตล์การลงทุนของนักลงทุนรุ่นใหม่ โดยในเดือนมีนาคมนี้ บริษัทจะเปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ที่บริษัทร่วมกับบริษัท Kiwoom Securities ของเกาหลี ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องการลงทุน ทำให้ลูกค้าของบริษัทจะได้รับประโยชน์สูงสุดในการลงทุน และจะเป็นเครื่องมือแที่สำคัญในการผลักดันให้บริษัทขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของการเทรดออนไลน์”
ขณะที่นางจิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล. ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวถึงภาพรวมแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปีนี้นั้น บริษัทยังคงประเมินเป้าดัชนี SET Index ไว้ที่ 1,900 จุด บนสมมติฐานการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ 13% และฐาน P/E ที่ 17 เท่า โดยมองว่ากลุ่มธุรกิจที่น่าสนใจในการลงทุนปีนี้ คือ ธนาคาร สื่อสาร ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ
“เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ทั้งจากการส่งออก และการท่องเที่ยว ที่ฟื้นตัวกลับขึ้นมา จากอัตราแลกเปลี่ยนที่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ อีกทั้งยังมีแรงขับเคลื่อนจากการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งล่าสุด ร่าง พ.ร.บ. อีอีซี ได้ผ่านมติของสภานิติบัญญัติ หรือ สนช. เรียบร้อยแล้ว ซึ่งน่าจะเป็นแรงส่งด้านการลงทุนเป็นอย่างมาก และจะช่วยทำให้ GDP เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ถึงระดับ 4.2-4.5% ประกอบกับบริษัทยังมองว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.5% ตลอดทั้งปี เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้มากขึ้น”