คริปโตเวชั่น จับมือ Asia Wealth Group ประกาศเปิดตัวเหรียญ CryptovationX ICO (CXO) พร้อมได้ที่ปรึกษาฝีมือดี Asia Wealth Group ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อังกฤษ ที่ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการความมั่งคั่ง-เป็นที่ปรึกษาเทคโนโลยีบล็อกเชน และ Initial Coin Offering เข้ามาร่วมทีมปรึกษา พร้อมคาดตลาดจะให้ความสนใจเป็นอย่างดี-ไทยตื่นตัวกับเทคโนโลยี Blockchain มากขึ้น
นายพลเดช อนันชัย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตเวชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้ทำการเปิดตัวเหรียญ CryptovationX ICO (CXO) ที่ได้รับความร่วมมือกับ Asia Wealth Group (http://www.AsiaWealthGroup.com) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อังกฤษที่ทำธุรกิจบริหารจัดการความมั่งคั่ง เพื่อจัดตั้งกองทุนบริหารจัดการทรัพย์สินดิจิตอลให้บริการลูกค้าทั่วโลก นอกจากนี้ ยังประกอบธุรกิจที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีบล็อคเชน และวานิชธนกิจเพื่อการเสนอขายเหรียญครั้งแรก (Initial Coin Offering) ให้แก่ธุรกิจอื่น ๆ
สำหรับจุดเด่นของเหรียญ CryptovationX ICO (CXO) คือ นักลงทุนที่ถือเหรียญสามารถใช้บริการหุ่นยนตร์ที่ปรึกษาการลงทุนทั้ง 3 ตัวของ CrytovationX ได้โดยหุ่นยนตร์ดังกล่าวพัฒนาโดยทีมที่มีความเชี่ยวชาญและได้รับรางวัลในการพัฒนาหุ่นยนตร์ที่ปรึกษาด้านการลงทุน โดยจากการคาดการณ์เบื้องต้น พบว่านักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างดี เพราะปัจจุบัน ประชากรโลกส่วนใหญ่เริ่มมองเห็นโอกาสการลงทุนในตลาดเหรียญดิจิทัล และให้ความสนใจในเครื่องมือช่วยการลงทุนมากขึ้นกว่าอดีต สำหรับคนไทยต้องยอมรับว่า เทคโนโลยี Blockchain ยังคงเป็นเรื่องใหม่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในอนาคต ผู้ลงทุนจะมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น จะส่งผลให้มีผู้สนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้นด้วย
“เทรนด์ที่กำลังมาในปัจจุบัน คือ สังคมไร้เงินสด โดยผมจะอธิบายคำว่า Cryptocurrency ให้เข้าใจแบบง่าย คือ สกุลเงินดิจิทัล หรือเงินดิจิทัล โดยออกแบบมาให้เข้ารหัส และกระจายออกไปในส่วนอื่น ๆ โดยไม่มีศูนย์กลาง และไม่มีการควบคุมจากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือที่เรียกว่า Blockchain ที่เก็บข้อมูลแบ่งออกเป็น ก้อน ๆ (block) และกระจายออกไปเชื่อมโยงกันไปอย่างต่อเนื่องเหมือนโซ่ (chain) และราคาของ Cryptocurrency ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนในขณะนั้น จึงไม่ได้เกิดจากสภาพเศรษฐกิจหรือในโลกภายนอก มีการซื้อขาย Cryptocurrency ในสกุลเงินต่าง ๆ ออนไลน์กันอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง หากความต้องการสกุลเงินไหนมาก และเป็นที่นิยมสกุลเงินดังกล่าวก็จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ” นายพลเดช กล่าว
สำหรับเงินระดมทุนที่ได้มานั้น จะนำไปวิจัยพัฒนา Platform และ Robo-advisory ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อย ๆ และนำเงินทุนบางส่วนไปใช้ ในการนำไปสร้างกองทุนภายในของบริษัทโดยใช้ Robo-advisor บริหารและนำกำไกลับมาซื้อ Token คืนจากตลาดเสรี เพื่อนำมาเป็นรางวัล (Reward) ให้กับผู้ใช้ที่ช่วยทำนายในการทำ Collective Intelligence และอีกส่วน คือ จะนำมาเป็นรางวัลในการจัดแข่งขันงานวิจัยและพัฒนา Robo-advisor ทั้ง 3 ประเภทปีละ 1 ครั้ง เพื่อค้นหาเทคโนโลยี และหุ่นยนตร์ ที่ช่วยเสริมทัพกองกำลังหุ่นยนตร์ของ CXO ให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัย รวมถึงพัฒนาความอัจฉริยะแบบไม่หยุดยั้ง เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของนักลงทุน โดยจะเริ่มจัด Blockchain & AI Conference เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชิงวิชาการและเปิดตัวการแข่งขันครั้งแรกในต้นปี 2019 และใน Conference ต้นปี 2020 จะมี Robo-advisor เพิ่มขึ้น 3 ตัวพร้อมกับทีมที่ระดับแนวหน้าด้านการพัฒนาหุ่นยนตร์เข้ามาเสริมทัพ
เขากล่าวด้วยว่า บริษัทฯ มีหุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุนโดยมีทั้งหมด 3 ตัว คือ
· “อาร์บี้ (Arbi)” โดยช่วยสอนและให้ความรู้เกี่ยวกับการทำอาร์บิทราจ ช่วยให้สัญญาณการทำอาร์บิทราจ ทำการซื้อขายแบบอาร์บิทราจให้แบบอัตโนมัติ
· “สเปคโต้ (Specto)” ช่วยให้สัญญาณการเก็งกำไร และเทรดเก็งกำไรให้อัตโนมัติ
· “โบรก้า (Broca)” มีความสามารถที่จะช่วยสมัคร Exchange (ให้ข้อมูลกับ Broca ครั้งเดียวแล้วสมัครต่อให้ได้อีกอย่างน้อย 10 Exchange) นอกจากนี้ จะยังสามารถช่วยคัดเลือก ICO และกำลังประมวลผล Cloud Mining มาเสนอขายให้ได้อีกด้วย
นอกจากนั้น Platform ของ CrotovationX จะออกแบบให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกม (Gamification) เพื่อให้การลงทุนใน Blockchain เข้าถึงง่าย และสนุกสนาน นอกจากจะมี Robo-advisor แต่ละคนช่วยอธิบายให้ความรู้แล้ว บางครั้งตัว Bot จะถามความเห็นหรือให้ผู้ใช้ Review ราคาต่าง ๆ แล้วถ้าผู้ใช้ทำนายได้ตรงกับตลาดจริง ก็จะได้ Reward เป็น Token ของเรา เพื่อทำ Collective Inteligence สำหรับเทรน AI ต่อไป
นายริชาร์ด เคย์น ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Asia Wealth Group CEO of Asia Wealth Group (AsiaWealthGroup.com) เปิดเผยว่า การร่วมมือกันครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้ประเทศไทยเปิดตัวเหรียญ CryptovationX ICO (CXO) โดยมั่นใจว่าจากนี้การระดมทุน ICO ครั้งนี้ จะทำให้ประเทศไทยเริ่มมีการตื่นตัวกับเทคโนโลยี Blockchain มากขึ้น
“ผู้ที่ต้องการใช้ Platform ต้องถือ Token ไว้ตามจำนวนที่กำหนดในกระเป๋าเงินดิจิทัลของตัวเอง แล้วจะสามารถเข้าถึงการใช้งาน Robo-advisor แต่ละตัวได้ ยิ่งถือมาก ก็จะสามารถใช้ Robo-advisor ที่ความสามารถสูงขึ้นได้ เช่น ถ้าต้องการใช้
“Arbi” Level 1 ที่สอนเรื่อง Arbitrage ให้ ต้องถือไว้ 100 Token ถ้าต้องการใช้ Level 2 ที่ส่งสัญญาณแจ้งเตือนให้ ต้องถือไว้ 1,000 Token และถ้าต้องการใช้ Level 3 ที่ทำการเทรดให้อัตโนมัติในวงเงินไม่เกินหมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ ก็จะต้องถือไว้ 10,000 Token เป็นต้น” นายริชาร์ด เคย์น กล่าว
นายนิรันดร์ ประวิทย์ธนา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AVA Advisor (AVA.fund) เปิดเผยว่า โครงการคริปโตเวชั่นเอ็กซ์ (https://CryptovationX.io) เกิดจากความร่วมมือของ Cryptovation.co กับพันธมิตรหลากหลาย นำโดย AVA Advisory บริษัทพัฒนาแพลตฟอร์มช่วยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ช่วยทำนายราคาของหลักทรัพย์ต่าง ๆ โดยกลุ่มพันธมิตรทั้งหมดมีเป้าหมายเดียวกัน เพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และให้บริการหุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุนแบบครบวงจร (One-stop-solution Robo-advisory Platform) ภายใต้อุดมการณ์ Wealth for All โดยจะทำให้เครื่องมือช่วยลงทุนที่ซับซ้อนมีความเป็นมิตรกับผู้ใช้ โดยใช้กลยุทธ์พัฒนาส่วนติดต่อกับผู้ใช้ให้มีความเป็นมนุษย์ที่มีบุคลิกเฉพาะตามความสามารถ และสามารถพูดคุยปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายพลเดช อนันชัย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตเวชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้ทำการเปิดตัวเหรียญ CryptovationX ICO (CXO) ที่ได้รับความร่วมมือกับ Asia Wealth Group (http://www.AsiaWealthGroup.com) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อังกฤษที่ทำธุรกิจบริหารจัดการความมั่งคั่ง เพื่อจัดตั้งกองทุนบริหารจัดการทรัพย์สินดิจิตอลให้บริการลูกค้าทั่วโลก นอกจากนี้ ยังประกอบธุรกิจที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีบล็อคเชน และวานิชธนกิจเพื่อการเสนอขายเหรียญครั้งแรก (Initial Coin Offering) ให้แก่ธุรกิจอื่น ๆ
สำหรับจุดเด่นของเหรียญ CryptovationX ICO (CXO) คือ นักลงทุนที่ถือเหรียญสามารถใช้บริการหุ่นยนตร์ที่ปรึกษาการลงทุนทั้ง 3 ตัวของ CrytovationX ได้โดยหุ่นยนตร์ดังกล่าวพัฒนาโดยทีมที่มีความเชี่ยวชาญและได้รับรางวัลในการพัฒนาหุ่นยนตร์ที่ปรึกษาด้านการลงทุน โดยจากการคาดการณ์เบื้องต้น พบว่านักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างดี เพราะปัจจุบัน ประชากรโลกส่วนใหญ่เริ่มมองเห็นโอกาสการลงทุนในตลาดเหรียญดิจิทัล และให้ความสนใจในเครื่องมือช่วยการลงทุนมากขึ้นกว่าอดีต สำหรับคนไทยต้องยอมรับว่า เทคโนโลยี Blockchain ยังคงเป็นเรื่องใหม่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในอนาคต ผู้ลงทุนจะมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น จะส่งผลให้มีผู้สนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้นด้วย
“เทรนด์ที่กำลังมาในปัจจุบัน คือ สังคมไร้เงินสด โดยผมจะอธิบายคำว่า Cryptocurrency ให้เข้าใจแบบง่าย คือ สกุลเงินดิจิทัล หรือเงินดิจิทัล โดยออกแบบมาให้เข้ารหัส และกระจายออกไปในส่วนอื่น ๆ โดยไม่มีศูนย์กลาง และไม่มีการควบคุมจากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือที่เรียกว่า Blockchain ที่เก็บข้อมูลแบ่งออกเป็น ก้อน ๆ (block) และกระจายออกไปเชื่อมโยงกันไปอย่างต่อเนื่องเหมือนโซ่ (chain) และราคาของ Cryptocurrency ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนในขณะนั้น จึงไม่ได้เกิดจากสภาพเศรษฐกิจหรือในโลกภายนอก มีการซื้อขาย Cryptocurrency ในสกุลเงินต่าง ๆ ออนไลน์กันอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง หากความต้องการสกุลเงินไหนมาก และเป็นที่นิยมสกุลเงินดังกล่าวก็จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ” นายพลเดช กล่าว
สำหรับเงินระดมทุนที่ได้มานั้น จะนำไปวิจัยพัฒนา Platform และ Robo-advisory ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อย ๆ และนำเงินทุนบางส่วนไปใช้ ในการนำไปสร้างกองทุนภายในของบริษัทโดยใช้ Robo-advisor บริหารและนำกำไกลับมาซื้อ Token คืนจากตลาดเสรี เพื่อนำมาเป็นรางวัล (Reward) ให้กับผู้ใช้ที่ช่วยทำนายในการทำ Collective Intelligence และอีกส่วน คือ จะนำมาเป็นรางวัลในการจัดแข่งขันงานวิจัยและพัฒนา Robo-advisor ทั้ง 3 ประเภทปีละ 1 ครั้ง เพื่อค้นหาเทคโนโลยี และหุ่นยนตร์ ที่ช่วยเสริมทัพกองกำลังหุ่นยนตร์ของ CXO ให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัย รวมถึงพัฒนาความอัจฉริยะแบบไม่หยุดยั้ง เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของนักลงทุน โดยจะเริ่มจัด Blockchain & AI Conference เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชิงวิชาการและเปิดตัวการแข่งขันครั้งแรกในต้นปี 2019 และใน Conference ต้นปี 2020 จะมี Robo-advisor เพิ่มขึ้น 3 ตัวพร้อมกับทีมที่ระดับแนวหน้าด้านการพัฒนาหุ่นยนตร์เข้ามาเสริมทัพ
เขากล่าวด้วยว่า บริษัทฯ มีหุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุนโดยมีทั้งหมด 3 ตัว คือ
· “อาร์บี้ (Arbi)” โดยช่วยสอนและให้ความรู้เกี่ยวกับการทำอาร์บิทราจ ช่วยให้สัญญาณการทำอาร์บิทราจ ทำการซื้อขายแบบอาร์บิทราจให้แบบอัตโนมัติ
· “สเปคโต้ (Specto)” ช่วยให้สัญญาณการเก็งกำไร และเทรดเก็งกำไรให้อัตโนมัติ
· “โบรก้า (Broca)” มีความสามารถที่จะช่วยสมัคร Exchange (ให้ข้อมูลกับ Broca ครั้งเดียวแล้วสมัครต่อให้ได้อีกอย่างน้อย 10 Exchange) นอกจากนี้ จะยังสามารถช่วยคัดเลือก ICO และกำลังประมวลผล Cloud Mining มาเสนอขายให้ได้อีกด้วย
นอกจากนั้น Platform ของ CrotovationX จะออกแบบให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกม (Gamification) เพื่อให้การลงทุนใน Blockchain เข้าถึงง่าย และสนุกสนาน นอกจากจะมี Robo-advisor แต่ละคนช่วยอธิบายให้ความรู้แล้ว บางครั้งตัว Bot จะถามความเห็นหรือให้ผู้ใช้ Review ราคาต่าง ๆ แล้วถ้าผู้ใช้ทำนายได้ตรงกับตลาดจริง ก็จะได้ Reward เป็น Token ของเรา เพื่อทำ Collective Inteligence สำหรับเทรน AI ต่อไป
นายริชาร์ด เคย์น ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Asia Wealth Group CEO of Asia Wealth Group (AsiaWealthGroup.com) เปิดเผยว่า การร่วมมือกันครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้ประเทศไทยเปิดตัวเหรียญ CryptovationX ICO (CXO) โดยมั่นใจว่าจากนี้การระดมทุน ICO ครั้งนี้ จะทำให้ประเทศไทยเริ่มมีการตื่นตัวกับเทคโนโลยี Blockchain มากขึ้น
“ผู้ที่ต้องการใช้ Platform ต้องถือ Token ไว้ตามจำนวนที่กำหนดในกระเป๋าเงินดิจิทัลของตัวเอง แล้วจะสามารถเข้าถึงการใช้งาน Robo-advisor แต่ละตัวได้ ยิ่งถือมาก ก็จะสามารถใช้ Robo-advisor ที่ความสามารถสูงขึ้นได้ เช่น ถ้าต้องการใช้
“Arbi” Level 1 ที่สอนเรื่อง Arbitrage ให้ ต้องถือไว้ 100 Token ถ้าต้องการใช้ Level 2 ที่ส่งสัญญาณแจ้งเตือนให้ ต้องถือไว้ 1,000 Token และถ้าต้องการใช้ Level 3 ที่ทำการเทรดให้อัตโนมัติในวงเงินไม่เกินหมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ ก็จะต้องถือไว้ 10,000 Token เป็นต้น” นายริชาร์ด เคย์น กล่าว
นายนิรันดร์ ประวิทย์ธนา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AVA Advisor (AVA.fund) เปิดเผยว่า โครงการคริปโตเวชั่นเอ็กซ์ (https://CryptovationX.io) เกิดจากความร่วมมือของ Cryptovation.co กับพันธมิตรหลากหลาย นำโดย AVA Advisory บริษัทพัฒนาแพลตฟอร์มช่วยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ช่วยทำนายราคาของหลักทรัพย์ต่าง ๆ โดยกลุ่มพันธมิตรทั้งหมดมีเป้าหมายเดียวกัน เพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และให้บริการหุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุนแบบครบวงจร (One-stop-solution Robo-advisory Platform) ภายใต้อุดมการณ์ Wealth for All โดยจะทำให้เครื่องมือช่วยลงทุนที่ซับซ้อนมีความเป็นมิตรกับผู้ใช้ โดยใช้กลยุทธ์พัฒนาส่วนติดต่อกับผู้ใช้ให้มีความเป็นมนุษย์ที่มีบุคลิกเฉพาะตามความสามารถ และสามารถพูดคุยปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ