“อินฟอร์เมติกซ์ พลัส” บ. ลูกของ “ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย” จับมือเว็บเทรด Cryptocurrency และ ICO ของไทย TDAX เพิ่มระบบตรวจเข้ม KYC และ AML เพื่อรองรับการจำหน่าย ICO ในวัน ที่ 14 ก.พ. นี้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ในการระบุตัวตนลูกค้า และตรวจสอบธุรกรรม
นายสุวัฒน์ อินมุตโต กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟอร์เมติกซ์ พลัส จำกัด บริษัทลูกของ บมจ. ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย (UPA) เปิดเผยว่า อินฟอร์เมติกซ์พลัส เปิดให้บริการด้าน Biometric ที่เป็นการยืนยันตัวตน ด้วยภาพใบหน้า ซึ่งเป็นรูปแบบที่สำคัญในการยืนยันตัวตนสำหรับกระบวนการทำธุรกรรมผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และ Mobile Platform Mozer จากเดิมที่ให้บริการหน่วยงานภาครัฐ เช่น บริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด มหาชน หรือ CAT Telecom ได้นำ ระบบ Face recognition ของบริษัทไปใช้ในงานสำคัญมากมาย และเป็นที่พิสูจน์แล้วว่า นวัตกรรมของไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก
นอกจากนี้ ยังนำ algorithm ของไทยเองไปบริการในรูปแบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และบริษัทได้นำเทคโนโลยี Bio Cloud (Cloud Biometric Datacenter) ที่ใช้อัลกอริธึม Face Recognition ของเราเอง พัฒนามาสนับสนุน TDAX ที่เป็นนวัตกรรมของประเทศที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain และปัจจุบัน สถาบันการเงินต่าง ๆ เมื่อมีการทำธุรกรรม รายการต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันจะต้องมีกระบวนการจัดเก็บ ลงทะเบียน (Enrollment) เข้ารหัสอัลกอริธึม (Encryption) ตรวจเปรียบเทียบ (Matching) เพื่อให้สามารถระบุตัวตน (Identification) และพิสูจน์ตัวตน (Verification) ได้ในเวลาเดียวกัน ดังนั้น จึงเกิดความร่วมมือในครั้งนี้ขึ้น เพื่อให้ระบบการทำงานมีประสิทธิภาพ แม่นยำ และอำนวยความสะดวก ให้กับลูกค้าในการเข้ามาใช้บริการ
นายปรมินทร์ อินโสม กรรมการผู้จัดการ TDAX และผู้ก่อตั้งเหรียญ Zcoin และ Satang เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 เว็บไซต์ TDAX จะเปิดจำหน่าย ICO (Initial Coin Offering) ให้กับลูกค้าผ่านทางเว็บไซต์เป็นครั้งแรก ซึ่งตระหนักว่า ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ให้ความสำคัญและมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องการเทรดสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) และการจำหน่าย ICO ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินนั้น ทางเราจึงร่วมมือกับสองบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้าน eKYC และ Face Recognition and Comparison ซึ่งจะนำมาใช้ยืนยันตัวตนลูกค้าอย่างเคร่งครัด ด้วยความท้าทายนี้ ทำให้ทาง TDAX เพิ่มระบบใหม่ในการ KYC และ AML เข้ามาให้บริการลูกค้าอีกด้วย
นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ บริษัท TARAD.com เปิดเผยว่า ได้เปิดตัว Startup ชื่อ Creden.co เป็นบริการระบบยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ (eKYC) และการประเมินลูกค้าออนไลน์ (Online Credit Scoring) สัญชาติไทย เป็นสตาร์ทอัปด้านระบบยืนยันตัวตน (eKYC) และประเมินลูกค้าทางออนไลน์ (Credit Scoring) ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา ภายใต้โครงการบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัปของทางดีแทค หรือ Dtac Accelerate รุ่นที่ 5 และได้รับการสนับสนุนการลงทุนจากดีแทค และกลุ่มตระกูลกองบุญมา ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการเงินการธนาคารของไทยมานานอีกด้วย
ทั้งนี้ ด้วยความสามารถของ Creden.co คือ การนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Big Data มาใช้ โดยการนำข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ และจากองค์กรต่าง ๆ มารวมเป็น Big Data เพื่อวิเคราะห์และยืนยันความถูกต้องด้วยเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุยืนยันลูกค้าได้อย่างแม่นยำ และปลอดภัยตามกฎหมาย นอกจากนี้ ยังนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการจัดเก็บ เพื่อให้ข้อมูลทั้งหมดมีความปลอดภัยในระดับสูงอีกด้วย