เพซ ดีเวลลอปเมนท์ฯ แจงงบสิ้นสุด 30 กันยายน 2560 เหตุมีรายการปรับปรุงที่อาจมีผลต่องบการเงิน และได้อธิบายรายละเอียดในคำชี้แจงความสมเหตุสมผล และเปิดเผยสมมติฐานเกี่ยวกับมูลค่าเงินลงทุนเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561
นางสาวนฑา กิตติอักษร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE แจ้งว่า ตามที่ PACE ได้นำส่งงบการเงินระหว่างกาลสำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 ผู้สอบบัญชี บริษัท เบเคอร์ ทิลลี่ ออดิท แอ็ดไวเซอร์รี่ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ให้ข้อสรุปต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม (ฉบับแก้ไขหลังจากการประเมินมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน) และการให้ข้อสรุปอย่างมีเงื่อนไขต่องบแสดงฐานะการเงินระหว่างกาลสำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 จากการถูกจำกัดขอบเขตโดยสถานการณ์เรื่องการประมาณการรายได้ของจุดชมวิว ซึ่งสามารถแบ่งความเห็นออกเป็น 2 เกณฑ์ดังนี้
กรณีแรก เกณฑ์ในการไม่ให้ข้อสรุปต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ รวมสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 ตามที่กล่าวในหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล 1 ตามคำสั่งของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 เลขที่ กลต.กช. 2008/2560 บริษัทฯ ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระแห่งที่ 2 เพื่อทำการประเมินมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในบริษัท เพซ โปรเจ็ค ทรี จำกัด ใหม่ โดยใช้วิธีประมาณการรายได้ (Income Approach) คำนวณคิดลดกระแสเงินสดมาเป็นมูลค่าปัจจุบัน และวิธีการตีราคาสิทธิในการซื้อหุ้น (Black-Scholesoption pricing model) ตามรายงานของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระแห่งที่ 2 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 เงินลงทุนดังกล่าวมีมูลค่ายุติธรรม จำนวนเงิน 6,487 ล้านบาท
บริษัทฯ ได้บันทึกเงินลงทุนในงบแสดงฐานะการเงินรวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 จำนวนเงิน 6,487 ล้านบาท และรับรู้ผลกระทบจากการสูญเสียการควบคุมในบริษัทย่อยในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมสำหรับงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 จำนวนเงิน 7,112.6 ล้านบาท เนื่องจากข้อจำกัดโดยสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้สอบบัญชีไม่สามารถให้ข้อสรุปต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม สำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 จากข้อเท็จจริงที่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ จึงไม่มีการประกอบพาณิชยกิจจริง เพื่อเปรียบเทียบและเป็นธุรกิจใหม่ในตลาดของไทย จึงไม่สามารถให้ข้อสรุปผลการสอบทานต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมสำหรับงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 เกณฑ์ในการให้ข้อสรุปอย่างมีเงื่อนไขต่องบแสดงฐานะทางการเงินรวม
จากประเด็นในเกณฑ์ข้อแรก ซึ่งผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม ส่งผลให้ผู้สอบบัญชีไม่สามารถสรุปได้ว่าอาจมีรายการผลปรับปรุงใด ๆ ที่อาจมีขึ้นต่องบแสดงฐานะการเงินรวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 จึงแสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขต่องบแสดงฐานะทางการเงินรวม
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มีการเปรียบเทียบมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในบริษัท เพซ โปรเจ็ค ทรี จำกัด ระหว่างรายงานของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระทั้งแห่งที่ 1 และบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระแห่งที่ 2 โดยใช้วิธีประมาณการรายได้ (Income Approach) และคำนวณคิดลดกระแสเงินสดมาเป็นมูลค่าปัจจุบัน
อีกทั้งบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระแห่งที่ 2 ใช้วิธี “Black-Scholes Model” หรือวิธีการตีราคาสิทธิในการซื้อหุ้นคืนในบริษัท เพซ โปรเจ็ค ทรี จำกัด เพิ่มเติมประกอบการประเมินมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนดังกล่าว โดยบริษัทฯ ได้อธิบายรายละเอียดในคำชี้แจงความสมเหตุสมผล และเปิดเผยสมมติฐานเกี่ยวกับมูลค่าเงินลงทุนตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ชี้แจงเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561
อย่างไรก็ตาม หากสินทรัพย์มีการก่อสร้างแล้วเสร็จ และเริ่มเปิดดำเนินการได้ บริษัทฯ จะมีรายได้ใกล้เคียงตามสมมติฐานดังกล่าว