พลังงานบริสุทธิ์ เตรียมแผนการลงทุนปี 61-62 ใช้งบลงทุนกว่า 2.47 หมื่นล้านบาท เร่งงานสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมโครงการหนุมาน ขนาดกำลังการผลิต 260 MW กำหนด COD ปลายปีนี้ และขยายการลงทุนสายธุรกิจไบโอดีเซล พร้อมสยายปีกสร้างโรงงานแบตเตอรีเฟส 1 ผุดสถานีชาร์จรถไฟฟ้าทั่วประเทศ 1,000 แห่ง
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยถึงการเตรียมแผนสำหรับลงทุนในโครงการสำคัญ ๆ ในปี 2561-2562 ว่า มีบริษัทฯ มีโครงการสำคัญ ๆ ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ และบางส่วนกำลังเตรียมการ ทั้ง EA ลงทุนเองโดยตรง และลงทุนผ่านบริษัทในเครือของ EA เบื้องต้น คาดว่าจะมีมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 24,700 ล้านบาท
ใช้แหล่งเงินทุนทั้งจากการดำเนินงานของบริษัทเอง การกู้ยืม และจากผู้ร่วมทุน ภาพรวมการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทฯ จะมีรายได้จากสายธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากการรับรู้รายได้โครงการลมหาดกังหันขนาดกำลังการผลิต 126 เมกะวัตต์ได้เต็มปี นอกจากนี้ ยังคาดว่าในช่วงปลายปีนี้จะเริ่ม COD โรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหนุมาน ขนาดกำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์ ได้อีกด้วย ส่งผลให้กำลังการผลิตโรงไฟฟ้าทั้งโซลาร์ฟาร์ม และโรงไฟฟ้าพลังงานลม ขยับขึ้นเป็น 664 เมกะวัตต์ ปัจจุบัน การก่อสร้างโครงการหนุมาน มีความคืบหน้าตามแผนงานเป็นอย่างดี โดยอยู่ระหว่างการก่อสร้างฐานรากก่อนที่จะทำการติดตั้งกังหันลมต่อไป
ส่วนสายธุรกิจไบโอดีเซล คาดว่า ปริมาณการขายจะเติบโตจากเดิมเล็กน้อยตามภาวะตลาด ทำให้สัดส่วนรายได้ในปีนี้จะมาจากธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 65% และธุรกิจไบโอดีเซล 35% (จากเดิมที่ปี 2560 รายได้มาจากธุรกิจไฟฟ้า 61% และธุรกิจไบโอดีเซล 39%) ทั้งนี้ ในปี 2561-2562 บริษัทจะมุ่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น เพื่อให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น จึงได้เตรียมการลงทุนภายใต้สายธุรกิจนี้ด้วยงบลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อผลิตทั้งไบโอดีเซล กรีนดีเซล พีซีเอ็ม และผลิตภัณฑ์พลอยได้ต่าง ๆ
สำหรับโครงการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ภายใต้เครื่องหมายการค้า “EA Anywhere” ได้เริ่มทยอยเปิดให้บริการแล้ว และทำการลงทุนต่อเนื่องจากปีก่อน เพื่อติดตั้งสถานีทั่วประเทศ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 1,000 สถานีภายในปีนี้ ภายใต้งบลงทุนทั้งสิ้น 800 ล้านบาท โดยจะลงทุนในปีนี้ประมาณ 700 ล้านบาท
นายอมร กล่าวเพิ่มเติมว่า “แผนการลงทุนที่สำคัญในปีนี้ คือ การก่อสร้างโรงงานแบตเตอรีเฟส 1 ขนาดกำลังการผลิต 1GWh ซึ่งได้ทำการออกแบบเสร็จสิ้นแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมการก่อสร้าง มีกำหนดแล้วเสร็จและเริ่มมีรายได้ในกลางปี 2562
เราต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดสำหรับรองรับโรงงานขนาด 50 GWh ด้วย จึงคาดว่าในปี 2561-2562 จะใช้งบประมาณลงทุนในธุรกิจนี้ ประมาณ 4,000 ล้านบาท สำหรับเฟสนี้เป็นการผลิตแบตเตอรี เพื่อมุ่งเน้นการนำไปใช้ในโรงไฟฟ้าเป็นหลัก และได้เริ่มทำการทดลองกับระบบย่อยที่ลำปาง เพื่อเก็บข้อมูลแล้ว”
“นอกจากแผนการลงทุนในโครงการต่าง ๆ แล้ว บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา หรือ R&D เพื่อรองรับธุรกิจในอนาคต โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณ R&D ในปีนี้รวมประมาณ 300 ล้านบาท ดังนั้น โดยสรุปแล้ว บริษัทฯ มีแผนลงทุนในปี 2561-2562 ที่คาดว่าจะใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 24,700 ล้านบาท” นายอมร กล่าว