ลีซ อิท โชว์สุดยอดผลงานปี 60 กำไรสุทธิ 145.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% เทียบปี 59 ทุบสถิติสูงสุดใหม่เป็นปีที่ 4 หลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ด้านผู้บริหาร “สมพล เอกธีรจิตต์” มั่นใจปี 61 ทะยานต่อ วางเป้าสินเชื่อ-รายได้ เติบโต 30% หนุนผลงาน นิวไฮต่อเนื่อง อานิสงส์ดีมานด์สินเชื่อกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีพุ่ง หลังรัฐเดินหน้าโครงการเมกะโปรเจกต์
นายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) หรือ LIT ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อธุรกิจเพื่อ SMEs ซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนทางเลือกนอกภาคสถาบันการเงิน ประเภท Non-Bank ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าหลัก คือ SMEs ที่ทำงานกับภาครัฐ และบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2560 มีรายได้รวม 418.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 131.77 ล้านบาท หรือ 46% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 287.19 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 145.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.83 ล้านบาท หรือ 45% เมื่อเทียบกับปีก่อน พอร์ตลูกหนี้สินเชื่อรวมอยู่ที่ 2,241 ล้านบาท และมียอดปล่อยสินเชื่อถึง 10,276 ล้านบาท
ในไตรมาส 4/2560 บริษัทฯ มีสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) โดยอยู่ที่ระดับ 4.84% (ก่อนหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ) และบริษัทฯ มีการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในไตรมาสที่ 4/2560 เป็น 4.92% ของยอดลูกหนี้คงเหลือ ทั้งนี้ เพื่อรองรับมาตรฐานการบัญชี TFRS9 ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2562 และเพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืน
“ผลการดำเนินงานในปี 2560 ประสบความสำเร็จอย่างภาคภูมิใจ โดยบริษัททำสถิติสูงสุดใหม่เป็นปีที่ 4 นับตั้งแต่ LIT เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai และถือเป็นความสำเร็จอีกขั้นของบริษัทที่ LIT ได้รับรางวัล “บริษัทจดทะเบียนด้านนักลงทุนสัมพันธ์ยอดเยี่ยม” (Best Investor Relations Awards) ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในโครงการ SET Awards 2017 และคาดการณ์ว่า ในปี 2561 บริษัทจะสามารถรักษารายได้นิวไฮได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากโปรดักต์สินเชื่อของบริษัทฯ นั้น มีความหลากหลาย และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า SMEs ประกอบกับมีดีมานด์กลุ่มลูกค้า SMEs ที่ต้องการใช้บริการสินเชื่อ เพื่อเข้าประมูลงาน และทำงานให้กับภาครัฐ ซึ่งเป็นผลจากการที่ภาครัฐขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในโครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) เป็นผลทำให้มีลูกค้ามาขอใช้บริการสินเชื่อกับบริษัทฯ มากขึ้นตามไปด้วย และบริษัทฯ ตั้งเป้าสินเชื่อและรายได้ เติบโต 30% เมื่อเทียบกับปี 2560” นายสมพล กล่าว
นายสมพล กล่าวอีกว่า การที่บริษัทมีลูกค้าพึงพอใจ และกลับมาใช้บริการสินเชื่อของ LIT อย่างต่อเนื่อง เพราะบริษัทปล่อยสินเชื่อได้อย่างรวดเร็ว ให้วงเงินสูง ไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน และมีสินเชื่อที่ตอบโจทย์ความต้องการของ SMEs ที่ทำงานภาครัฐตั้งแต่เริ่มต้นจนจบโครงการ เช่น สินเชื่อเพื่อออกหนังสือค้ำประกันซองประมูล (Bid Bond) สินเชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการ (Project Backup Finance) และบริการรับซื้อหนี้ทางการค้า (Factoring)