14 กุมภาพันธ์นี้ บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด บริษัทลูกที่ บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ถือหุ้นในสัดส่วน 80% ของทุนจดทะเบียน จะออกระดมทุนด้วยดิจิทัล โทเคน ต่อสาธารณชน (ICO) โดยเป็นบริษัทจดทะเบียนแห่งแรกที่ระดมเงินรูปแบบใหม่ แม้ยังไม่มีกฎเกณฑ์กำกับดูแลก็ตาม
เงินดิจิทัลที่จะนำเสนอมีชื่อว่า JFIN COIN เปิดขายครั้งแรกจำนวน 100 ล้านเหรียญ จากจำนวนทั้งหมด 300 ล้านเหรียญ ในราคาเหรียญละ 20 เซนต์ตามเงินสกุลสหรัฐ ระดมทุนทั้งหมด 20 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 660 ล้านบาท
JMART ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถูกตั้งคำถามว่า ทำไมจึงรีบร้อนระดมทุนด้วยสกุลเงินดิจิทัล ทำไมไม่รอให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดหลักเกณฑ์การทำ ICO ให้ชัดเจนเสียก่อน
ขณะที่ ก.ล.ต. ถูกหางเลขไปด้วย ถูกโจมตีฐานปล่อยให้ JMART เสนอขาย JFIN COIN เพราะแม้จะไม่ใช่การเสนอขายหลักทรัพย์เพื่อระดมทุน แต่เมื่อบริษัทจดทะเบียนประกาศระดมทุนจากสาธารณชน ก.ล.ต. ย่อมมีอำนาจในการควบคุม
และน่าจะใช้อำนาจสั่งการให้ชะลอหรือระงับแผนระดมทุนไว้ชั่วคราว ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนและการระดมทุนจากประชาชน
อีกไม่กี่วัน JFIN COIN จะเปิดจองซื้อแล้ว โดยมีผู้แสดงความสนใจร่วมลงทุนที่ลงชื่อไว้เบื้องต้นประมาณ 2,700 ราย แต่ถึงเวลาเปิดจองจริง ไม่รู้ว่า จะมีผู้สนใจเหลือสักกี่ราย
ไวท์ เปเปอร์ JFIN COIN เผยแพร่สู่สาธารณชนเป็นที่เรียบร้อย แจกแจงรายละเอียดเงินดิจิทัลที่บริษัทลูกของ JMART เป็นผู้ออกได้ดีพอสมควร
แต่คนที่ไม่มีพื้นฐานความรู้เงินดิจิทัล ไม่เข้าใจธุรกรรมของ บิทคอยน์ คงยากที่จะทำความเข้าใจกับ JFIN COIN
JFIN COIN เป็นเงินสกุลดิจิทัลลักษณะเดียวกับ บิทคอยน์ เพียงแต่บริษัทลูกของ JMART เป็นผู้ออก และเสนอขายต่อสาธารณชน โดยเงินที่ระดมจะนำไปพัฒนาระบบสินเชื่อแบบไม่มีตัวกลางด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน นำบริการทางการเงินให้ประชาชน ในรูปแบบระบบสินเชื่อเพื่อรายย่อยแบบธุรกรรมการเงินระหว่างบุคคล
ระบบที่พัฒนาขึ้น จะทำให้ผู้กู้กับผู้ให้กู้ทำสัญญาข้อตกลงกันโดยตรง ไม่ผ่านคนกลาง และเป็นระบบการกู้ยืมเงินที่เป็นกระบวนการดิจิทัล
สิทธิประโยชน์ของผู้ถือJFIN COIN คือสามารถเข้าร่วมธุรกรรมในระบบการกู้ยืมในกระบวนการดิจิทัลที่พัฒนาขึ้น เหมือนกับการเป็นสมาชิกสโมสรทั่วไป โดยผู้ที่เป็นสมาชิก สามารถใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ของสโมสรได้
ส่วนผู้ที่ถือ JFIN COIN สามารถเข้าร่วมธุรกรรมระบบสินเชื่อแบบไม่มีตัวกลาง ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน จะเป็นผู้กู้หรือผู้ปล่อยกู้ได้
ผลตอบแทนจากการลงทุนใน JFIN COIN มีเพียงประการเดียวคือ ส่วนต่างของราคา เช่นเดียวกับบิทคอยน์
แต่ไม่มีพื้นฐานใดในการวิเคราะห์ความเหมาะสมของราคา JFIN COIN ไม่มีใครคาดเดาได้ว่า แนวโน้มราคาจะเป็นอย่างไร มีแต่ความคาดหวังว่า ในอนาคต เมื่อมีความต้องการมากขึ้น ราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
อนาคตความต้องการ JFIN COIN ขึ้นอยู่ว่า การพัฒนาระบบสินเชื่อแบบไม่มีตัวกลางด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนของ JMART จะได้รับความนิยมเพียงใด สามารถขยายฐานลูกค้าได้ขนาดไหน เพราะถ้าระบบสินเชื่อแบบไม่มีตัวกลางได้รับความนิยม ความต้องการ JFIN COIN สูงขึ้น ราคาจะพุ่งตาม
JFIN COIN ใกล้เวลาขายเข้ามาทุกที แต่วันนี้ฝ่ายบริหาร JMART ยังต้องนั่งอธิบาย ทำความเข้าใจนักลงทุนเกี่ยวกับเงินที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเอง เพราะเป็นเงินสกุลใหม่ เป็นรูปแบบการลงทุนที่นักลงทุนยังไม่คุ้นชิน และไม่ง่ายที่จะอธิบายให้รู้แจ้ง
นักลงทุนที่จะเข้ามาเก็งกำไร แต่ไม่รู้ถึงความเสี่ยง จึงเป็นเรื่องอันตราย เพราะเงินสกุลดิจิทัลทั้งโลก ไม่มีฐานราคาที่แน่นอน ไม่มีใครควบคุมได้ การเคลื่อนไหวของราคาเป็นไปอย่างหวือหวา และอาจทำให้เกิดความล่มจมได้
สกุลดิจิทัลที่ JMART เป็นบริษัทจดทะเบียนแห่งแรก ปั้มออกมาจำหน่าย กระแสตอบรับนักลงทุนจะเป็นอย่างไร ยากที่จะประเมิน
รู้กันแต่ว่า บริษัทจดทะเบียนอีกนับสิบแห่ง กำลังเฝ้าดู JFIN COIN อย่างใจจดใจจ่อ เพราะถ้าราบรื่น ขายดิบขายดี นักลงทุนแห่จองซื้อ บริษัทจดทะเบียนอีกนับสิบแห่ง คงเร่งปั้มเงินดิจิทัลออกระดมทุนตามมากันชุดใหญ่
JMART นำร่อง เชิญชวนนักลงทุนเข้าสู่โลกการลงทุนเงินสกุลดิจิทัลแล้ว จะมีใครกล้าเสี่ยงวัดดวงกับ JFIN COIN หรือไม่เท่านั้น